Wednesday, January 25, 2012

เที่ยวชมเมืองสุดสัปดาห์ที่กรุงปารีส Paris ประเทศฝรั่งเศส


ภาษาอิตาเลี่ยนวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า Viaggio
อ่านว่า วิ-ยาจ-โจ (Stress คำว่า “ยาจ”)
ภาษาไทยแปลว่า ทริป, การเดินทาง
ภาษาอังกฤษตรงกับคำว่า Trip, Voyage Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley


สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องๆ ที่น่ารักทุกท่าน
ขอบคุณหลายๆ คนที่เข้ามาอวยพรช่วงตรุษจีนนะคะ
ต้องขออภัยที่ไม่ได้ตอบคอมเมนต์กลับช่วงก่อนหน้านี้
เพราะเพิ่งเดินทางกลับถึงบ้านคืนวันจันทร์ (23 ม.ค.) ที่ผ่านมานี่เอง

สุดสัปดาห์ที่แล้ว มีโอกาสไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านของอิตาลี
คือ ประเทศฝรั่งเศส
ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ ที่เอิงติดตามคุณสามีไปกรุงปารีส
เน้นเดินเที่ยว ดูสถานที่สำคัญของเมือง
อากาศไม่หนาวอย่างที่คิด ประมาณ 6-8c
(แต่ไม่ค่อยมีแดดเท่าไหร่... ภาพอาจดูมืดมัวนิดนึง)


มาชมภาพกันดีกว่าค่ะ
Arc de Triomphe
ประตูชัยที่โดดเด่นอยู่บนถนน Champs-Elysées
ถูกสร้างในยุคเรืองอำนาจของนโปเลียน เริ่มก่อสร้าง 1806
และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1836

















คืนวันอาทิตย์ 22 ม.ค.
มีโอกาสไปล่องเรือไปตามแม่น้ำเซน ชมเมืองปารีสยามค่ำคืน
เห็นหอไอเฟล Tour Eiffel สว่างไสวมาแต่ไกล

















โบสถ์ Notre-Dame อันมีชื่อเสียง
เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1163 เคยถูกทำลายบางส่วน
จากสงครามและไฟไหม้ ต่อมาในยุคนโปเลียน ปี ค.ศ.1804
ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ จนกลายเป็นสถานที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน

















Hôtel de Ville
สถานที่ทำการทางราชการของเมือง
(Municipal Headquarters of the city)
สร้างขึ้นในสไตล์ Renaissance ช่วงศตวรรษที่ 16

















Musée d’Orsay
พิพิธภัณฑ์ด้านศิลปะภาพวาด รูปปั้น ฯลฯ จากศตวรรษที่ 19
มีผลงานจากศิลปินอันมีชื่อเสียงมากมาย เช่น
Vincent Van Gogh, Monet, Renoir ฯลฯ

















สะพาน Pont Alexandre III
สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่กษัตริย์ Czar Alexander III ปี ค.ศ.1896
ในสมัยยุครุ่งเรืองของการเป็นมิตรระหว่างประเทศรัสเซียและฝรั่งเศส

















เรือล่องแม่น้ำเซนในกรุงปารีส Bateaux-Mouches
มีนักท่องเที่ยวมากมายตลอดปี ไม่เว้นแม่แต่ในฤดูหนาว

















หอไอเฟล Tour Eiffel
บันทึกภาพจากวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2555
อุณหภูมิประมาณ 7c (ฟ้าสีเทาเล็กน้อย)



















ภาพนี้แอบถ่าย คุณตำหนวดฝรั่งเศส อิอิ
หน่วยรักษาการณ์รอบๆ หอไอเฟล Tour Eiffel
(ซูมไกลนิดนึง... ไม่กล้ายืนใกล้ นู๋กลัว 555+)

















Grand Palais
สร้างในปี ค.ศ.1900 เป็นสถานที่สำคัญจัดงานสำคัญต่างๆ
เช่น การแสดงงานศิลป์, exhibtions นานาชาติ ฯลฯ

















ถนน Champs-Elysées
ถนนสายสำคัญและสวยงามของเมืองปารีส
คึกคักไปด้วยร้านค้าชั้นนำ ร้านอาหาร คอฟฟี่ช้อป ฯลฯ

















บรรยากาศรอบๆ แม่น้ำเซน หน้าหอไอเฟล Tour Eiffel
(ในวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2555)
มีเรือท่องเที่ยวแล่นผ่านไปมา และมีสวนสนุกเล็กๆ สำหรับเด็กอีกด้วย



















Opéra Garnier
โรงละครใหญ่ของปารีส จัดการแสดงโอเปร่า
ละครร้อง, การเต้นบัลเล่ย์ ฯลฯ
สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1862 จัดการแสดงระดับประเทศหลายรายการ
เป็นแหล่งดึงดูดสำคัญสำหรับผู้ชื่นชมการแสดงละครโอเปร่า

















Galeries Lafayette
ห้างสรรพสินค้าชั้นนำของกรุงปารีส
เต็มไปด้วยสินค้าจากแบรนด์ดังของโลก เช่น Chanel, LV, Dior ฯลฯ
(เดินดูอย่างเดียวค่ะ ไม่กล้าซื้อ...กระเป๋าฉีกแน่นอน 555+)

















ร้าน Apple Store ตั้งอยู่ในอาคารโบราณ
อยู่ไม่ไกลจาก Opéra Garnier
(นานๆ เห็นร้าน Apple Store ตั้งอยู่ในตึกย้อนยุค ดูเก๋ไปอีกแบบ)

















ร้าน Ladurée ที่กรุงปารีส ตั้งอยู่บนถนน Champs-Elysées
เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านขายขนม macarons
(คืนวันเสาร์ 21 มกราคม ...มีฝนตกนิดหน่อย)



















Macarons ในร้าน Ladurée ตั้งเป็นรูปทรงเจดีย์
มีของทานเล่น ของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ จากร้านขายอีกด้วย

















Macarons จาก Ladurée ทำเก๋ มีทองปิด 555+
เป็น edible gold ...รับประทานได้ค่ะ
















Smiley *Thank You* Smiley
เพื่อนบล้อกเกอร์ คุณ Pinky และพี่หยี (น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา)
สำหรับการ์ดจากเมืองไทยที่ส่งมาในช่วงปีใหม่
ภาพสวย ประทับใจ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ



















ขอบคุณ “หนึ่ง” AdrenalineRush
สำหรับการ์ดอวยพรปีใหม่ ...ภาพทุ่งดอกไม้สีเหลืองสดใส
อยากฝากเพื่อนๆ ลองเข้าไปดูบล็อกของเพื่อนคนนี้ ภาพสวยสุดยอดค่ะ


















ขอบคุณ “พี่อุ้ม” จากบล็อกอุ้มสี
หลายคนคงรู้จักพี่อุ้มดีถึงความน่ารัก มิตรภาพไมตรี
พี่อุ้มส่งการ์ดมาอวยพรช่วงปีใหม่ ขอบคุณมากๆ ค่ะ













ขอสุขสันต์วันตรุษจีนย้อนหลังให้กับพี่ๆ น้องๆ อีกครั้ง
ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายกันเสมอ
ช่วงนี้อาจตอบคอมเมนต์ช้าไปบ้าง ไม่ว่ากันนะคะ
(ไปเที่ยวซะหลายวัน อิอิ...ตอนนี้เพิ่งกลับมาถึงบ้าน)
ไว้จะตามเข้าไปทักทายแต่ละท่านถึงบล็อกแน่นอนค่ะ

ปล. เอนทรี่นี้อยู่ใน สาขาไกลบ้าน/ชีีวิตในต่างแดน ค่ะ

Tuesday, January 17, 2012

อาหารตรุษจีน: หมูกรอบและขนมเข่ง


ภาษาอิตาเลี่ยนวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า Cina
อ่านว่า ชี-นา (Stress คำว่า “ชี”)
ภาษาไทยแปลว่า ประเทศจีน
ภาษาอังกฤษตรงกับคำว่า China

Cinese ชี-เน-เส (Stress คำว่า “เน”)
คำวิเศษณ์ adjective แปลว่า จีน, ภาษาจีน, สิ่งที่เกียวข้องกับประเทศจีน

Cinese ชี-เน-เส (Stress คำว่า “เน”) คำนามเอกพจน์ แปลว่า คนจีนหนึ่งคน
Cinesi ชี-เน-สิ (Stress คำว่า “เน”) คำนามพหูพจน์ แปลว่า คนจีนหลายคน







สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องๆ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน
โครงการ 9W แม่มดกลับมาพบกันอีกแล้วในเดือนมกราคม
โจทย์เดือนนี้คือ “อาหารตรุษจีน”
เมื่อเอิงได้รับแจ้งข่าวสารเรื่องนี้ ต้องเตรียมตัวทำการบ้านทันที
เนื่องจากไม่ค่อยถนัดทำอาหารจีน (ถนัดกินอย่างเดียว 555+)
เสิร์ชทางกูกเกิ้ล อ่านจาก bloggang และดูตัวอย่างหลายๆ เมนู
เรื่องที่ท้าทายที่สุดนั้นคือ การหาส่วนประกอบในการทำ

ที่มิลานมีไชน่าทาวน์ ย่านถนน Via Paolo Sarpi
ที่นั่นมีร้านขายของเอเชียอยู่ พอเป็นที่พึ่งทางใจได้บ้าง อิอิ
(อาหารไทย อาหารจีน ฯลฯ มีให้เลือกพอสมควร)
ในที่สุดก็มาลงตัวกับเมนู “หมูกรอบ” และ “ขนมเข่ง”


“หมูกรอบ”
ต้องเลือกเนื้อหมูที่ติดกับหนัง งานนี้ไม่ง่ายอีกแล้ว
ในอิตาลีคนไม่ค่อยทานหนังหมูกัน หรือ หมูที่ขายอยู่นั้นไม่ติดหนัง
แต่ในที่สุดก็เจอร้านขายเนื้อสัตว์ที่ยอมให้หนังหมูติดมา อิอิ
(คนขายมองหน้านิดๆ คุณจะกินหนังหมูจริงหรือ... มาจากประเทศอะไรเนี่ย 55+)
เอาน่า ขายๆ มาเถอะ... เนื้อหมูติดหนัง...จะเอามาทำหมูกรอบน่ะ




สูตร “หมูกรอบ”
เจอสูตรจากคุณพิม @ - ENYA - @ ติดใจมาก ขอทำตามเลยค่ะ
(มีดัดแปลงนิดหน่อย เนื่อจากน้ำมันปาล์มหาไม่ได้ ใช้น้ำมันมะกอกแทน)
สูตรต้นฉบับจาก “คุณพิม”
อยู่ในลิงค์นี้ สูตรหมูกรอบ จาก "คุณพิม" @ - ENYA - @

ส่วนผสม
หมูสามชั้น 1 แผ่น หนักประมาณ 1.5 กิโล
น้ำเปล่า 10 ถ้วย
เกลือป่น 75 กรัม
น้ำมันมะกอกสำหรับทอด (เยอะมากๆ)

วิธีทำ
เริ่มต้นด้วยการเอาน้ำเปล่าผสมกับเกลือป่นใส่ภาชนะที่จะใช้ต้มหมู
ตั้งให้เดือด แล้วก็ใส่หมูสามชั้น (ที่ขูดขนออกหมดแล้ว และล้างสะอาดแล้ว)
ลงไปต้ม ใช้ไฟกลาง ต้มประมาณ 45 นาที

พอต้มครบ 45 นาที ก็เอาขึ้นพักวางบนตะแกรงโปร่ง
นำไปตากแดดจัด 1 ชม. จนหนังหมูมีความแห้งในระดับแห้งหมาดๆ
(อันนี้เอิงดัดแปลง ที่บ้านไม่มีแดด นำไปอบในตู้อบแทน
อบ 60c ประมาณ 15 นาที)

จากนั้นก็นำมาทอดในน้ำมัน เยอะๆ โดยเอาด้านหนังลงไปก่อน
ช่วงแรกใช้ไฟกลางค่อนมาทางแรงประมาณ 70%
พอด้านหนังเหลืองดี ก็พลิกกลับอีกด้านลงไปทอด
และลดไฟลงเหลือประมาณ 60%
พอทอดเหลืองแล้วทั้งสองด้าน ก็ตักขึ้นพักไว้บนตะแกรง ให้สะเด็ดน้ำมัน
เนื้อหมูที่ได้จะเป็นแบบกรอบนอกนุ่มใน อร่อยทีเดียว




ภาพเนื้อหมูติดหนัง
(หนังได้มาน้อย จริงๆ อยากได้กว่านี้ แต่ที่ร้านบอกไม่มี หยวนๆ นะคะ)

















เอาเนื้อหมูไปต้มก่อน ต้มประมาณ 45 นาที



















ตามสูตรต้นฉบับ ต้องนำไปตากแดด 1 ชั่วโมง
แต่แดดที่บ้านไม่มี ก็เลยนำไปเข้าเตาอบแทนค่ะ
(อบ 60c ประมาณ 15 นาที)

















อบเสร็จ นำไปทอดในกระทะ
ตอนทอดไม่ได้ถ่ายรูป เพราะน้ำมันกระเด็นเยอะมาก อิอิ
(ต้องใช้ฝาหม้อบังหน้าไว้ กลัวโดนน้ำมัน 555+)
แต่น...แต๊น... ออกมาแล้ว หมูกรอบ กรอบนอกนุ่มใน

















หมูกรอบหั่นเป็นชิ้นๆ ทานเปล่าหรือทานกับข้าสวยก็อร่อย
เอิงกับคุณสามีลองทานกับน้ำจิ้มไก่ อรุย รสชาดดี เข้ากับน้ำจิ้มแบบไทยๆ
















มีอาหารคาวแล้วต้องมีอาหารหวาน
ขนมยอดฮิตสำหรับเทศกาลตรุษจีนที่ทุกท่านรู้จักดี
คือ “ขนมเข่ง”

งานนี้เอิงแวะไปไชน่าทาวน์ 2 รอบ
ภาระกิจตามล่าหา “ใบตอง”... มารอบแรก อาแปะเฝ้าร้านบอกว่าไม่มี
มีแต่ใบเตย ใช้ได้มั้ย --- เอิงตอบไปว่า “ม่ายล่ายๆ อั๊วะอยากได้ใบตอง”
ต่อมาแวะไปอีก... อาแปะมองหน้า “บอกแล้วไง ม่ายมีใบตอง ลื้อจะเอาไปทำอะไร”
เอิง “อั๊วะจะเขาไปทำขนมตรุษจีน ขนมเข่ง เฮียรู้จักมั้ย”
(ปรินท์ภาพจากอินเตอร์เน็ตมาให้ดู)
อาเฮียส่ายหน้า หัวเราะขำๆ บอกว่า “ลื้อใช้ถ้วยได้น่า ถ้วยที่ทำ Panna Cotta ไง”
เอิง “จริงเหรอเฮีย... ถ้วยทำขนมอิตาเลี่ยนเนี่ยนะ”
อาแปะเฝ้าร้าน “จริงสิ... บ้านอั๊วะก็ทำ ไม่ยากส์เลย ลื้อลองดูน่า”
(อยู่อิตาลีต้องรู้จักประยุกต์หน่อย อิอิ สรุปแล้วใช้ถ้วยอลูมิเนียม
ที่ใช้ทำ Panna Cotta ค่ะ ถ้วยนี้มีขายเยอะ ตามซุปเปอร์ต่างๆ มีเต็มไปหมด)





มาดูสูตรกันดีกว่า
“ขนมเข่ง” ส่วนประกอบ
แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม
น้ำ 2 ½ ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 ½ ถ้วย

วิธีทำ
ผสมแป้งและน้ำตาลใส่อ่างผสม แล้วค่อยๆ เทน้ำใส่
คนให้เข้ากัน หรือใช้ตะกร้อมือตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน
เอาถ้วยอลูมิเนียมทาน้ำมันให้ทั่ว ค่อยๆตักแป้งที่ละลายแล้วใส่จนเกือบเต็ม
ตั้งน้ำให้เดือดในรังถึง นึ่งขนมประมาณ 30 นาที
ควรใช้ไฟปานกลาง(น้ำเดือด)ในการนึ่ง
ถ้าใช้ไฟแรงเกินไปอาจทำให้หน้าขนมไม่เรียบ

เมื่อขนมเย็นแล้ว เอาสีแต้มมาเติมเป็นจุดตรงกลาง
ตกแต่งเพื่อความสวยงาม





มาชมภาพกันค่ะ
ส่วนประกอบ คือ แป้งข้าวเหนียว น้ำเปล่า น้ำตาล
(ประยุกต์ใช้ถ้วยอลูมิเนียมแทนใบตอง)

















คนส่วนผสมให้เข้ากัน (แป้ง น้ำเปล่า น้ำตาล)

















นำไปใส่ถ้วย นึ่งประมาณ 30 นาที
จากนั้นตั้งพักไว้ให้เย็น



















เติมจุดสีแดง (สีผสมอาหาร) เพื่อความสวยงาม
คนจีนเชื่อว่าเป็นการเพิ่มความเป็นศิริมงคล



















อาหารตรุษจีนสำหรับวันนี้
“หมูกรอบ” และ “ขนมเข่ง”

















ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้
สุขสันต์วันตรุษจีนแด่พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านค่ะ














เอาคลิปเพลงมาฝากค่ะ
อันนี้ไม่เกี่ยวกับวันตรุษจีน อิอิ แต่ชอบเพลงนี้จัง
“เทียนมีมี่” เพลงจีนอมตะ คิดว่าหลายคนคงเคยได้ยิน
วันก่อนเจอคลิปทางยูทูป เปิดให้คุณสามีฟัง
(เค้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย...เชยจัง 555+)
ตอนนี้กลายเป็นว่าคุณเธอชอบมาก ผิวปากเป็นเพลงเทียนมีมี่ได้แล้ว
แสดงว่าติดหูจริงๆ อยากเอามาฝากพี่ๆ น้องๆ กันด้วยค่ะ




เดินชมบรรยากาศลดราคาสินค้าหลังปีใหม่ Winter Sales 2012 ณ เมืองมิลาน อิตาลี


ภาษาอิตาเลี่ยนวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า Saldi
อ่านว่า ซาล-ดิ (Stress คำว่า “ซาล”)
ภาษาไทยแปลว่า การลดราคาสินค้า
ภาษาอังกฤษตรงกับคำว่า Sales

 
Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley


สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องๆ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน
หลังเทศกาลปีใหม่ เมืองมิลานและเมืองใหญ่ๆ ในหลายเมืองของอิตาลี
จะเริ่มลดราคาสินค้า (กระหน่ำ) เป็นประเพณี
เปิดศักราชมา มิลานประกาศเริ่ม Sales วันที่ 5 มกราคม ไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม
ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนจับจ่ายใช้สอย
สินค้าที่ลดราคานั้นเป็นสินค้าที่เราๆ เห็นกันอยู่ในร้าน
เปิดร้านวันที่ 5 ปุ๊บ ก็ลดราคาเทกระจาดกันลงมาเลย
เรียกว่าถูกใจขาช้อปไม่น้อยค่ะ



มาชมภาพกันเลยดีกว่า
บริเวณหน้าห้าง La Rinascente บริเวณ Piazza del Duomo
คนมาเดินช้อปปิ้งอย่างมากมาย เปิดเทศกาล Winter Sales 2012

















ร้าน H&M บริเวณใกล้ Duomo di Milano คนเดินเข้าออกคับคั่ง
(ถนน Corso Vittorio Emanuele II)

















ห้างสรรพสินค้า Excelsior เน้นสินค้าแบรนด์เนม
คนเดินเข้าออกเยอะไม่แพ้ที่อื่นเช่นกัน

















ร้าน MaxMara และร้าน Benetton
แบรนด์จากอิตาลี ลูกหน้าหนาแน่น คับคั่ง



















ร้าน Sephora ขายเครื่องสำอางค์ เอาใจคุณสาวๆ
ร้าน Mango ขายเสื้อผ้า ลด 50%




















ร้าน Diesel ขายเสื้อผ้าสไตล์เอาใจวัยรุ่น
สัญชาติอิตาเลี่ยน แบรนด์มาแรงไม่แพ้ใคร

















ใกล้ๆ ถนนช้อปปิ้ง มีรถสปอร์ตมาตั้งโชว์ ขอไปดูด้วยคน
รถ Lamborghini Murciélago
สัญชาติอิตาเลี่ยน ปีนึงเค้าผลิตน้อยมาก ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อย
คันนี้สีส้มแปร๊ด แสบตาดีจัง 555+



















ถนน Montenapoleone ถนนแฟชั่นสายสำคัญของมิลาน
เป็นถนนวันเวย์ รถออกได้(เข้าไม่ได้)
โปรดสังเกตป้ายห้ามเข้า มีคนทำท่าแบก มาช่วยถือด้วยน่ะ 555+



















ร้าน LV ไม่ได้ติดป้ายเซลส์ ไม่มีลดราคา อิอิ
แต่คนก็ยังเดินเข้าออกอย่างคึกคัก

















ร้าน Salvatore Ferragamo แบรนด์อิตาเลี่ยน
เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ คุณภาพดีมาก
ดีไซน์ไม่หวือหวา เรียบๆ ออกสไตล์ผู้ใหญ่ ดูเรียบร้อยภูมิฐาน

















ร้านป้าดา Prada บ้านเกิดคือเมืองมิลาน
ร้านนี้คนคึกคัก มีสินค้าใหม่ๆ มาให้ชมตลอด


















อะจ๊ากส์... ร้องเท้าหน้าตาประหลาดจากยี่ห้อ Giuseppe Zanotti
คู่นี้โชว์อยู่หน้าร้าน ...เห็นแล้วนึกถึง “เลดี้กาก้า” 55+
ว่าแต่เค้าเดินกันยังไงเนี่ย... เขย่งๆ นึกภาพเลดี้กาก้าไปด้วย อิอิ


















เห็นคนมุงๆ ดูรถอะไรกัน... ขอไปมุงด้วย เป็น “ไทยมุง” อย่าให้เสียชื่อ
รถ Ferrari (โปรดสังเกต เครื่องแรง มีท่อไอเสีย 3 ท่อ)

















หลังจากมุงดู Ferrari ได้สักพัก มีตำรวจขับรถมาจอด
เสียบใบสั่ง เพราะรถจอดในที่ “ห้ามจอด” ค่ะ
(เฟอร์รารี่ก็เฟอร์รารี่เถอะ จอดผิดที่ เจอใบสั่งกับเขาเหมือนกัน 55+)

















ก่อนกลับบ้าน แวะดูร้านขายมาการอง Ladurée (เผื่อมีเซลส์)
ปรากฏว่าไม่มีเซลส์ค่ะ อิอิ... ถ่ายรูปหน้าร้านหน่อย กล่องสีสวยดี


















Smiley Thank You Smiley
ขอขอบคุณ “พี่พีช” somjaidean100 แห่งแคนาดา สำหรับของขวัญน่ารัก
ส่งมาในช่วงปีใหม่ คือ กระเป๋าเครื่องใส่เครื่องสำอางค์ กระเป๋าปิ๊กแป๊ก โปสการ์ด
ถูกใจมากมาย ขอบคุณพี่พีชอีกครั้งค่ะ

















ขอบคุณ “คุณปรัซซี่” จากบล็อก ปรัซซี่ สำหรับ สคส.
การ์ดเก๋ไก่เป็นปฏิทิน pop-up ลวดลายไทยสวยงาม
เห็นแล้วต้องตั้งโชว์บนโต๊ะทำงาน อิอิ ขอบคุณคุณปรัซซี่มากค่ะ

















ขอบคุณ “น้ำฝน” Cecilia_Malee เพื่อนบล็อกเกอร์จากนอร์เวย์
สำหรับโปสการ์ดสีสวย ส่งมาในช่วงปีใหม่
คุยกับน้ำฝนสุดสวยอยู่บ่อยๆ ทางเฟ้ส ขอบคุณมากๆ ค่ะ
















ช่วงนี้เพิ่งเริ่ม Winter Sales บรรยากาศในเมืองเริ่มคึกคัก
หลังจากหลายคนได้หยุดยาวมาตั้งแต่ช่วงคริสมาส ปีใหม่
สัปดาห์นี้ร้านค้า ร้านอาหาร สำนักงาน ฯลฯ เริ่มกลับมาทำงานกันเป็นปกติ
อากาศยังหนาวอยู่ แต่ไม่มากเกินไป 3-7c ในอาทิตย์ทีผ่านมา

เอนทรี่นี้มาแบบสบายๆ ดูกันเพลินๆ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียน แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ