Thursday, November 29, 2012

ทานมื้อค่ำที่ห้องอาหารไทย ณ โรงแรม Cocca Hotel เมือง Sarnico ประเทศอิตาลี


ภาษาอิตาเลี่ยน วันนี้ขอเสนอคำว่า Albergo Smiley
อ่านว่า อัล-เบร์-โก (Stress คำว่า “เบ”) 
ภาษาไทยแปลว่า โรงแรม
ภาษาอังกฤษ คือ Hotel


Smiley สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องๆ ที่น่ารัก Smiley
วันนี้ขอพาไปชมบรรยากาศทานดินเนอร์ อาหารไทย 
ณ โรงแรม Cocca Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีสปาร์แบบไทย 
(ชื่อเต็มๆ คือ Cocca Hotel Royal Thai Spa)
อยู่ที่เมือง Sarnico ซาร์นิโค ริมทะเลสาป Iseo ประเทศอิตาลี
เมืองนี้อยู่ห่างจากมิลานประมาณ 70 กิโลเมตร
ขับรถไปสะดวกที่สุด ใช้เวลา 1 ชั่วโมงค่ะ

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ทางโรงแรมจัดงานทานอาหารมื้อค่ำเนื่องในวันลอยกระทง
เพื่อนๆ ส่งข่าวมาบอก ถือเป็นโอกาสดีได้ชวนคุณสามีไปด้วย
ได้นั่งร่วมโต๊ะรับประทานกับเพื่อนสาวๆ คนไทยและสามีชาวอิตาเลี่ยนอีก 3 คู่
ถือเป็นการสังสรรชาวไทยในต่างแดนไปในตัวค่ะ
งานนี้จัดแบบบุฟเฟท์ เน้นอาหารไทยเป็นหลัก แต่ก็มีอาหารที่ฝรั่งพอทานได้
เช่น ปอเปี๊ยะ ขนมปังหน้าหมู ข้าวผัด เป็นต้น


มาชมภาพกันดีกว่า
ภาพจากโรงแรม Cocca Hotel – Royal Thai Spa ตกแต่งแบบไทยๆ
Credit ภาพ จากเวปไซต์ http://www.coccahotel.com









ออเดิร์ฟที่หลายคนทานได้ ขนมปังหน้าหมู









ส้มตำ ... จานนี้หลายคนบอกว่าเผ็ดค่ะ (ของชอบคนชอบทานเผ็ดอย่างเอิง อิอิ)







ปอเปี๊ยะ อาหารยอดฮิต ทานได้ทั้งฝรั่งและคนไทย







ลาบหมู ... เผ็ดนิดเดียว บางคนก็บอกว่าไม่เผ็ดเลย รสชาดดีค่ะ







ไก่ย่าง... มีข้าวเหนียวตั้งอยู่ใกล้ๆ ด้วย จานนี้ผู้ใหญ่ เด็ก ทานได้หมด ^.^







ข้าวผัด... ใส่ผัก ใส่ไข่ ทานง่าย ทานสะดวก







มีการแสดงรำไทยคั่นระหว่างรายการ แต่งตัวสวยงาม
หลายคนเข้ามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก อยู่ต่างแดน ไม่ค่อยมีรำไทยให้ดูบ่อยๆ อิอิ









ฟ้อนรำในแบบอีสาน (อันนี้จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะว่ารำอะไร)
จังหวะเพลงสนุกสนาน น้องผู้หญิงคนนี้รำสวยจัง ^.^









น้องๆ พนักงาน แต่งชุดไทยมาต้อนรับ เข้ากับบรรยากาศดินเนอร์อาหารไทย









รายการของหวาน... เค็กมะพร้าวโรยน้ำตาลไอซิ่ง และราดน้ำเชื่อมเล็กน้อย







ของหวานนี้เป็นแบบฝรั่ง มูสเค็กช็อคโกแลตและวนิลา









ส่วนขนมนี้เรียกชื่อไม่ถูกค่ะ ส่วนผสมคือแป้งอบกับมะพร้าว
แป้งที่ทานนั้น มีส่วนผสมแป้งมันอยู่ด้วย
ไม่รู้เรียกว่าอะไร รอให้ผู้รู้ด้านขนมไทยช่วยมาเฉลยหน่อย ^^







เค็กมะพร้าวแบบโรยอัลมอนด์สไลด์
(คุณสามีเอิงชอบมาก ทาน 2 ชิ้นแน่ะ 555+)







พุดดิ้ง มีส่วนผสมของครีมและราสพ์เบอร์รี่
ทำเป็นรูปดอกกุหลาบสวยงาม








งานนี้ถือเป็นงานรวมสังสรรเล็กๆ ของชุมชนคนไทยในอิตาลี
ส่วนใหญ่คุ้นหน้าคุ้นตากันพอสมควร เพราะรู้จักกันผ่านทางสมาคมคนไทยในเขตลอมบาร์เดีย
ซึ่งเป็นสมาคมที่เอิงรู้จักผ่านทางเพื่อนๆ ในอิตาลี
มีการดำเนิน ประสานงาน กระจายข่าวสาร รวมทั้งประชาสัมพันธ์งานของสถานฑูตไทย
ถือเป็นโอกาสดีที่นานๆ ครั้งได้มาเจอกัน

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์นะคะ
ช่วงนี้เอิงเริ่มยุ่งอีกแล้ว คือเตรียมช้อปปิ้งซื้อของขวัญคริสมาสให้ครอบครัวที่นี่
เดือนหน้าจะพาไปชมบรรยากาศเทศกาลในเมืองมิลาน
ขอบคุณอีกครั้งที่แวะมาทักทายค่ะ

ปล. เอนทรี่นี้อยู่ใน สาขาไกลบ้าน/ชีวิตในต่างแดน ค่ะ

Saturday, November 17, 2012

เดินเที่ยวชมสวนสาธารณะ Parco Sempione เมืองมิลาน อิตาลี + ต้อนรับน้องแมวตัวใหม่


ภาษาอิตาเลี่ยน วันนี้ขอเสนอคำว่า Tegola Smiley
อ่านว่า เท-โก-ลา (Stress คำว่า “เท”) 
ภาษาไทยแปลว่า กระเบื้อง, กระเบื้องมุงหลังคา
ภาษาอังกฤษ คือ Tile


สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องๆ ที่น่ารัก
วันนี้ขออัพบล็อกสบายๆ พาไปเดินเที่ยวดูสวนสาธารณะในเมืองมิลาน
Parco Sampione ปาร์โก ซัมปิโอเน Smiley
ดูไม้ใบเปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกันค่ะ
ไม่บรรยายอะไรมาก ไปชมภาพกันดีกว่า ^.^


สวนสาธารณะ Parco Sempione
มีผู้คนมาเดินเล่นพักผ่อนทุกวัน ถือเป็นสวนขนาดใหญ่ในตัวเมือง








ภายในมีบริเวณในเดินเล่น เดินเที่ยว หรือวิ่งออกกำลังกาย









ดูใบไม้เปลี่ยนสี อีกด้านหนึ่งของสวน









บางส่วนมีคลองเล็กๆ ที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ
อากาศเริ่มหนาว แต่ก็ยังเห็นผู้คนมาเดินออกกำลังกันทุกวัน







มุมนี้เห็นประตูชัย Arco della Pace อยู่ไม่ไกล







เดินชมใบไม้สีสวย ต้นไม้ริมทาง
หน้าหนาวปีนี้คงร่วงหมด กลายเป็นต้นไม้โกร๋นๆ แน่นอน อิอิ









มาชมภาพประตูชัยกันชัดๆ ประตูนี้ชื่อ
อาร์โค เดลลา ปาเช Arco della Pace
สร้างในแบบฝรั่งเศส เพราะช่วงนั้นมิลานตกอยู่ใต้การปกครองของนโปเลียน โบนาปาร์ท
ประตูนี้ตั้งติดกับสวนสาธารณะ Parco Sempione









มาชมอนุสรณ์สถานสำคัญอีกแห่ง คือ บริเวณหน้าโรงละครสกาล่า
Piazza della Scala เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ Leonardo da Vinci
นักวิทยาศาสตร์และศิลปิน ผู้วาดภาพโมนาลิซ่าอันเลื่องลือ









บริเวณลาน Piazza della Scala เห็นใบไม้เปลี่ยนสี สีส้ม สีเหลือง









ใกล้ๆ กับโรงละครสกาล่า คือ แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ
Galleria Vittorio Emanuele II
ใครมีโอกาสมาเที่ยวมิลาน ลองแวะมาสถานที่นี่ดูด้วย
ภายในมีสถาปัตยกรรมสวยๆ ให้ชมเยอะทีเดียวค่ะ









Duomo di Milano โบสถ์ดูโอโม่ประจำเมืองมิลาน
ช่วงเดือนพฤศจิกายน ท้องฟ้ามืดครึ้มบ่อยมาก
เริ่มเข้าฤดูหนาวที่กำลังจะถึงนี้แล้ว
(ต้นเดือนธันวาคม จะมีการตั้งต้นคริสมาสใหญ่ประจำเมืองที่ลานนั้น)









รถราง หรือ แทรม Tram ในมิลาน
มีให้เห็นแทบทุกถนนหนทาง ถือเป็นการคมนาคมสำคัญของชาวเมืองค่ะ
เอิงก็ไปไหนมาไหนด้วยการนั่งรถราง (หรือรถใต้ดิน) ถือว่าสะดวกมาก







ภาพของแถม
เอาใจแฟนคลับหลุยส์ LV นิดนึง 555+
เดือนนี้ร้านหลุยส์ตกแต่งสวย เปลี่ยนสไตล์บ่อยๆ
อันนี้สไตล์หน้าร้านล่าสุดของเดือนพฤศจิกายน 2012
(ถ่ายจากแหล่งช้อปปิ้งใน Galleria Vittorio Emanuele II)









มาพบกับสมาชิกน้องแมวตัวใหม่ของคุณพ่อคุณแม่ของสามี
แมวตัวผู้ ชื่อ Tegola (เทโกล่า) Smiley
ภาษาไทยแปลว่ากระเบื้อง หรือกระเบื้องมุงหลังคา
สาเหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะเจอเจ้าแมวถูกทิ้งไว้บนหลังคาบ้านบนภูเขา
โดดเดี่ยวเดียวดายบนหลังคา คาดว่าแม่แมวมาคลอดทิ้งไว้
(บนเขา บนดอย จะมีเหยี่ยวหรือนกตัวใหญ่ประเภทต่างๆ
พวกนี้หากินโดยการกินสัตว์ด้วยกัน คงกินแม่แมวไปค่ะ น่ากลัวจัง หุหุ)
จะลงก็ลงไม่ได้เพราะตัวเล็ก คงกลัว คุณพ่อต้องโยนอาหารให้กินทุกวัน
ฤดูหนาวกำลังจะมา ถ้าปล่อยน้องแมวไว้คงหนาวน่าดู
ก็เลยจับน้องแมวลงมา ไปๆ มาๆ น้องแมวไม่ยอมไปไหน มานอนในห้องประจำ
ตอนนี้สรุปคุณพ่อคุณแม่มีแมว 3 ตัวค่ะ คือ Ulisse, Penny และ Tegola
ต้องยอมรับว่าบ้านนี้รักแมวจริงๆ
ตอนนี้สมาชิกใหม่ย้ายมาอยู่ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ในมิลานเรียบร้อยแล้ว
บ้านบนเขาต้องปิดทิ้งชั่วคราวไว้ค่ะ เพราะฤดูหนาวนี้คงหนาวเหน็บมาก
ไว้ช่วงฤดูใบไม้ผลิคงได้กลับไปเที่ยวอีก

มาดูโฉมหน้าน้องแมวกันดีกว่า
Tegola ตอนเจอคือเดือนสิงหาคม 2012
(ผอมมาก เพราะคงไม่มีอะไรกิน คุณพ่อต้องโยนอาหารขึ้นไปบนหลังคา)







Tegola โดนจับลงมาให้กินอาหารในบ้านอยู่หลายวัน
ตอนนี้เริ่มมีเนื้อ มีหนัง สมบูรณ์ขึ้นนิดหน่อย







งานอดิเรก นอนอาบแดดเล่นกับ Penny







ยืดเส้น ยืดสาย ... เล่นกับ Ulisse







รูปนี้ Tegola นอนกอดกับ Ulisse อิอิ







ท่านอนประจำตัว นอนยืดขา ... ท่าประจำของน้องแมวเทโกล่า Tegola







บล็อกวันนี้มาแบบสบายๆ นะคะ
ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนมาก นอกจากไปเรียนภาษา กลับมาทำการบ้าน
การบ้านยังเยอะอยู่เหมือนเดิม หุหุ
เดือนหน้าคงมีโอกาสได้พาชมเมืองช่วงคริสมาสกันนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทาย และขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ค่ะ


ปล. เอนทรี่นี้อยู่ใน สาขาไกลบ้าน/ชีวิตในต่างแดน ค่ะ