Wednesday, October 27, 2010

แนะนำหนังสนุกจากฝรั่งเศส The Heartbreaker

ภาพยนตร์เรื่อง The Heartbreaker
สนุก สไตล์ Romantic Comedy
ภาษาต้นฉบับเป็นภาคฝรั่งเศสค่ะ
เรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่รับจ้างงานหักอกชาวบ้าน
จัดการเป็นคู่ควงสาวทุกวัย กำจัดคู่รัก
ซึ่งได้ถูกจ้างมาขัดขวางความรักของสาวคนหนึ่่ง
ที่คุณพ่อของเธอไม่เห็นด้วยเรื่องการแต่งงาน
จึงจ้างหนุ่มคนนี้มาเพื่อขัดขวางงานวิวาห์
เขามีเวลาแค่ 10 วันเท่านั้น จะทำสำเร็จหรือไม่
ต้องไปติดตามชมกันค่ะ



Sunday, October 24, 2010

Benefit - Her name was Glowla

มาแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จากเครื่องสำอางค์ Benefit
ชื่อตลับชุดนี้ว่า Her Name was Glowla
รวบรวมอายแชโดว์สีโทนธรรมชาติไว้ถึง 5 สีด้วยกัน
มีบลัชทาแก้ม มาสคาร่า และครีมที่ทำให้หน้าดูใส
เรียกว่า "โกลว" กันแบบครบเครื่อง สไตล์ธรรมชาตินะคะ

มาดูหน้าตากันดีกว่าค่ะ






รายละเอียดของผลิตภัณฑ์มีดังนี้



CORALista coral-pink cheek powder 3.0 g Net wt. 0.1 oz.
high beam luminescent complexion enhancer 2.5 mL / 0.08 US fl. oz.
moon beam iridescent complexion enhancer 2.5 mL / 0.08 US fl. oz.
5 shade eyeshadow palette 5.0 g Net wt. 0.18 oz.
BADgal lash mascara 4.0 g Net wt. 0.14 oz.
A list lip gloss 5.0 mL / 0.17 US fl. oz.
fluff shadow/hard angle brush



    Saturday, October 16, 2010

    สบู่เก๋ไก๋จาก Lush - Withches' Ball

    สบู่สไตล์ฮัลโลวีน Witches' Ball
    วันนี้พามาชมโฉมสินค้าใหม่จาก Lush กันนะคะ
    อันนี้เป็นสบู่ก้อนงาม (น่ากลัวมากกว่า) แต่น่าใช้ค่ะ
    มีส่วนผสมของ rosemary, sage, peppermint, frankincense, myrrh and benzoin.
    สีสันสดใส ม่วงอ่อน เห็น Anise ประดับไว้ด้วย
    เหมาสำหรับผู้ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศอ่างน้ำที่บ้าน
    สินค้าของยี่ห้อนี้ไม่มีสารเคมี เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแท้ๆ ค่ะ


    Thursday, October 14, 2010

    แนะนำเครื่องสำอางค์ Too Faced - Pixie Perfect

    มีเครื่องสำอางค์ชุดน่ารักขนาดพกพามาแนะนำกันนะคะ จากยี่ห้อ Too Faced.
    ชุดนี้มีชื่อว่า Too Faced - Pixie Perfect.
    เรียกว่ามาแบบพกใส่ได้ในกระเป๋า สีโทนแบบ Neutral ใช้ได้แทบทุกวันเลยค่ะ สีไม่ฉูดฉาด เหมาะสำหรับคุณสาวๆ ที่อยากแต่งหน้าแบบใสๆ นะคะ



    รายละเอียดสินค้ามีดังนี้

    - อายแชโดว์ 4 สี Eye Shadow Quad Palette
    - บลัช และบรอนเซอร์ Blush and Bronzer Duo
    - ลิปกลอส 0.12 oz Glamour Gloss in Plush
    - มาสคาร่า 0.169 oz Lash Injection Mascara in Black
    - เบสสำหรับทาเปลือกตา 0.11 oz Shadow Insurance
    - กระเป๋าใส่เครื่องสำอางค์ขนาดเล็ก Quilted Cosmetic Case



    Wednesday, October 13, 2010

    แนะนำหนังสือ The Wedding Girl

    วันนี้พามาแนะนำหนังสือน่าอ่าน สนุก และมีดราม่านิดๆ นะคะ ชื่อเรื่อง The Wedding Girl

    เรื่องราวของสาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อ Milly ที่กำลังจะจัดงานแต่งงานในไม่กีวันข้างหน้า แต่ต้องมาเจอเรื่องยุ่งเข้า เพราะช่างถ่ายรูปในงานของเธอนั้นจำเธอได้ว่า 10 ปีที่แล้ว เธอแต่งงานกับผู้ชายอีกคน (ซึ่งเป็นเกย์) แล้วเธอก็ยังไม่ได้หย่าให้เรียบร้อยด้วย ตากล้องคนนี้มาพบความลับของเธอเข้า ก็เลยเป็นเรื่องวุ่นๆ กันที่ต้องแก้ไข เธอจะทำอย่างไรกับงานแต่งงานในไม่ช้า และตามหาตัวสามีคนเก่ามาหย่าให้เรียบร้อย ...ยังมีครอบครัวที่เข้ามาวุ่นวายอยู่ไม่ห่าง... ต้องมาติดตามกันค่ะ



    เรื่อง The Wedding Girl
    ผู้เขียน Medeleine Wickham
    (เป็นผู้เขียนคนเดียวกับ หนังสือซีรี่ Shopaholic แต่ใช้นามแฝงคือ Sohie Kinsella)


    Product Details

    • Paperback: 352 pages
    • Publisher: St. Martin's Griffin; First Edition edition (June 22, 2010)
    • Language: English
    • ISBN-10: 031262820X
    • ISBN-13: 978-0312628208

    Saturday, October 9, 2010

    แนะนำหนังอังกฤษ สดใสน่ารัก Tamara Drewe

    วันนี้อยากเอาหนังฟอร์มเล็กมาแนะนำกันนะคะ Tamara Drewe เป็นภาพยนตร์ทีเนื้อหาเบาๆ  เรื่องน่ารักของสาวอังกฤษที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในชนบท เธอเปรี้ยวค่ะ ทำเอาหนุ่มๆ ชาวท้องทุ่ง หันมามองสไตล์เปรี้ยวๆ ของเธอกันเป็นแถว เรื่องมาสนุกเอาตรงเธอมาปิ๊งหนุ่มคนหนึ่งเข้า แต่เขาไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่ในตอนแรก ยังมีเรื่องรัก เราสามคน หนุ่มที่สองมาปิ๊งเธออีก ทั้งเรื่องราวความรัก การปรับตัว วิวสวยๆ ในชนบท ฯลฯ ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามทีเดียว

    เรื่อง Tamara Drewe
    นำแสดงโดย Gemma Arberton, Roger Allam, Dominic Cooper

    สไตล์ใสๆ นะคะ

    มาทานของอร่อย Panzerotti จากร้าน Luini

    วันนี้ขอแนะนำของอร่อย Panzerotti (พันเซร็อตติ) จากร้านขึ้นชื่อของมิลาน ร้าน Luini (ลูอินี่) แต่ก่อนที่จะพาไปทานกันของแนะนำให้รู้จักกันหน่อยนะคะว่า เจ้า Panzerotti นี่คืออะไร เป็นอาหารที่ใช้แป้งเป็นส่วนผสมหลัก ลักษณะคือ แป้งทอดสอดไส้มะเขือเทศและชีสมอซซะเรลล่า ขนาดไม่ใหญ่ค่ะ บางคนให้คำอธิบายว่าเหมือน Calzone ขนาดเล็ก แต่แป้งที่ใช้นั้นต่างกัน เพราะแป้งของ Panzerotti เนื้อนุ้มกว่าเยอะ
    มารู้จักคำศัพท์กันนิดนะคะ
    Panzerotto (ออกเสียง พันเซร็อตโต้) คือ คำเอกพจน์ ถ้าท่านสั่งทาน 1 ชิ้น ต้องใช้คำนี้ค่ะ
    Panzerotti (ออกเสียง พันเซร็อตติ) คือ คำพหูพจน์ ถ้าท่านสั่งทาน 2 ชิ้นขึ้นไป ต้องใช้คำนี้
    บางครั้งจึงไม่แปลกที่จะมีคนถามว่า ตกลงว่าเวลาไปทาน จะบอกว่า Panzerotto หรือ Panzerotti ดี ขึ้นอยู่กับว่าจะทานสักกี่ชิ้นนะคะ ทานชิ้นเดียวก็ขอสั่ง Panzerotto และถ้าสั่งสองชิ้นขึ้นไปก็ คือ Panzerotti คราวนี้คงเข้าใจกันแล้วนะคะว่า คืออาหารอย่างเดียวกัน เพียงแต่ไวยากรณ์ในการใช้นั้นต่างกัน

    ที่เมืองมิลาน อิตาลี มีร้านขาย Panzerotti ชื่อดังอยู่ คือร้าน “Luini” (ลูอินี่) ร้านนี้มีที่มาคือ เจ้าของร้าน Giuseppina Luini (จูเซปปิน่า ลูอินี่) ย้ายครอบครัวมามิลาน ในปี คศ. 1949 จากบ้านเกิดคือ Puglia (พูญเลีย - อยู่ทางใต้ของอิตาลี) เธอมาตั้งร้านเบเกอรี่ เริ่มแรกนั้นก็ทำขนมปังส่งขายร้านทั่วไปในตัวเมือง แต่เธอก็ยังคิดตลอดถึงเรื่องการทำอาหารขายที่ร้านเบเกอรี่ของตัวเอง จนวันหนึ่งเธอไปเจอสูตรอาหารเก่าแก่ของครอบครัว คือสูตร Panzerotti ซึ่งเป็นอาหารจากเมือง Puglia ดั้งเดิม เธอจึงเกิดความคิดในการทำขายขึ้น ปรับแต่งเครื่องปรุง จนในที่สุดก็เริ่มมีชื่อเสียง มีคนเข้ามารับประทานกันอย่างมากมาย กลายเป็นร้านดังของเมืองมิลานเลยทีเดียว
    ที่ตั้งปัจจุบันคือ Via S.Radegonda 16 (Piazza Duomo), Milano
    Panzerotti แบบคลาสสิค สูตรดั้งเดิมคือ แป้งทอดเนื้อนุ่ม สอดใส้ข้างในคือมะเขือเทศและชีสมอซซะเรลล่า ปัจจุบันนั้นมี Panzerotti หลากหลายรูปแบบ สอดใส้แฮม ผักโขม มะกอกเทศ ฯลฯ แล้วแต่ใครอยากทำสอดใส้อะไรก็ไปปรุงแต่งกันได้
    Luini เป็นร้านที่มีคนเข้าแถวยาวตลอด เพื่อมาซื้อ เมื่อซื้อเสร็จก็นั่งทานกันตามทางเดินเท้าหน้าร้าน ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะที่นั่งด้านในมีน้อย รองรับแขกไม่พอ คนก็เลยซื้อใส่ถุงกันมารับประทาน กรอบนอกนุ่มใน อร่อยจริงๆ

    วันเสาร์ที่ผ่านมา อากาศพอใช้ได้ ไม่มีฝนตก แม้จะเริ่มหนาวแล้วก็ยังมีแดดออก ผู้เขียนกับสามีเลยจูงมือกันไปเดินเล่นแถวลานดูโอโม่ เลยมีโอกาสแวะไปทาน Panzerotti ที่ร้าน Luini ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับโบสถ์ดูโอโม่ เมืองมิลาน รอคิวกันนานนิดนึงเพราะเป็นวันเสาร์ คนออกมาเดินช้อปปิ้งกันเยอะค่ะ แต่คุ้มค่าของอร่อย รอนานก็ไม่เป็นไรนะคะ

    มาดูภาพกันค่ะ









    (ภาพด้านบน) ป้ายหน้าร้าน luini มองเห็นแต่ไกลเลยค่ะ



    (ภาพด้านบน) คนมาเข้าคิวเป็นแถวยาวเพื่อซื้อ Panzerotti จากร้าน Luini



    (ภาพด้านบน) พอซื้อเสร็จแล้วก็มานั่งทานกันหน้าร้าน ทางเดินเท้า อย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก เพราะที่นั่งด้านในนั้นมีไม่พอรองรับลูกค้ามากมาย เราสองคนก็เช่นกันค่ะ ซื้อมาแล้วก็ทานกันหน้าร้านเหมือนกับทุกคน



    (ภาพด้านบน) บรรยากาศภายในร้าน Luini






    (ภาพด้านบน) Panzerotti ในแบบต่างๆ ทั้งแบบคลาสสิค ใส้แฮม ฯลฯ มีหลายรูปแบบแล้วแต่จะสั่งนะคะ



    (ภาพด้านบน) หน้าตาของ Panzerotti ขนาดไม่ใหญ่ ไม่เล็ก



    (ภาพด้านบน) ของเราทาน Panzerotti แบบคลาสสิคค่ะ คือใส้มะเขือเทศ และชีสมอซซะเรลล่า






    (ภาพด้านบน) ซองที่ใส่ Panzerotti ด้านหลังซองมีลายเซ็นนายกเทศมนตรีมิลาน (คนเก่า) กล่าวชมร้าน Luini ให้เป็นร้านดีเด่น

    หลังจากทานกันอร่อยแล้ว เราก็เดินช้อปปิ้งนิดหน่อยค่ะ  ร้านชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศส Ladurée ขายขนมหวานมาเปิดใกล้ๆ กับ ลานดูโอโม่ มิลาน เราเลยเดินไปดูกันไหนๆ มาใกล้แล้ว
    ร้าน Ladurée ที่ตั้งคือ Via Spadari 6, Milano
    ของหวานชื่อดังคือ Macaron นั่นเองนะคะ หลายคนคงมีโอกาสได้ทานกันบ้างแล้ว หวานนนนนนนน จับใจค่ะ

    มาดูรูปบรรยากาศ ร้าน Ladurée – Milano กันค่ะ

























    (ภาพด้านบน) กล่องนี้ปิ๊งค่ะ ผู้เขียนซื้อกลับไปด้วย สีชมพูถูกใจมากๆๆๆ



    (ภาพด้านบน) นอกจากขายขนมหวาน Macaron แล้ว ก็ยังมีสินค้าอื่นอีกมากมาย เช่น กระเป๋า น้ำหอม เครื่องเขียน ฯลฯ สไตล์น่ารักจริงๆ ค่ะ



    (ภาพด้านบน) กล่องนี้พิเศษค่ะ  Marni เป็นแบรนด์เสื้อผ้าอิตาเลี่ยน ได้มาออกแบบกล่องน่ารักให้กับร้าน Ladurée









    (ภาพด้านบน) Macaron สีสันสดใส สวยงาม รสหวานมาก ต้องค่อยๆ ทานนะคะ เดี๋ยวหัวใจวาย +555

    ร้าน Ladurée ที่มาเปิดในเมืองมิลาน เห็นตกแต่งข้างในอย่างกับบ้านตุ๊กตาน่ะค่ะ น่ารักมาก
    ขอบคุณที่แวะมาทักทาย แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ

    Tuesday, October 5, 2010

    หนังสืออ่านสนุก The Carrie Diaries

    มีหนังสือสนุกๆ มาแนะนำกันนะคะ The Carrie Diaries ถ้าใครเป็นแฟนหนังสือ Sex And The City คงรู้จักกันดีกับสาวสวย Carrie Bradshaw ตัวละครหลักของเรื่อง

    เรื่อง The Carrie Diaries เป็นเรื่องราวบันทึกย้อนหลัง เหมือนไดอารี่่ของ Carrie Bradshaw สมัยเธอยังเป็นนักเรียนในชั้นมัธยม เราจะได้มารู้จักตัวเธอในอดีตกันเสียหน่อย เรื่องราวของการเริ่มต้นในความสนใจแฟชั่น เพื่อนรอบกายเธอ กิจกรรมในโรงเรียนที่เธอสนใจ ฯลฯ เรียกว่ามาพร้อมกับเรื่องราว ประวัติส่วนตัวมากมาย น่าสนใจมากที่เดียว ใครชอบ เป็นแฟนของ Carrie Bradshaw พลาดกันไม่ได้นะคะ



    ผู้เขียน Candace Bushnell


    Product Details

    • Hardcover: 400 pages
    • Publisher: Balzer + Bray (April 27, 2010)
    • Language: English
    • ISBN-10: 0061728918
    • ISBN-13: 978-0061728914

    Saturday, October 2, 2010

    บันทึกการเดินทาง Scrapbook เยี่ยมชมเมืองต่างๆ ในอิตาลี

    Scrapbook จากทริปนี้ ปี 2005 เดินทางท่องอิตาลี เป็นทริปครั้งแรกที่มาเที่ยว ตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงานเลยค่ะ ไหนๆ มาประเทศอิตาลีทั้งทีเลยเที่ยวไปหลายเมือง เช่น เวนิส ฟรอเรนซ์ โรม ฯลฯ เห็นตั๋วรถไฟ รถราง ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์แล้วก็นึกถึงตอนที่เราไปถึงที่นั่น อะไรที่เห็นครั้งแรก ก็ยังจำได้ ถือเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ เลย แม้ตอนนี้มาอาศัยอยู่ที่อิตาลีอย่างเป็นทางการแล้ว ก็ยังนึกไปถึงทริปเก่าๆ ในวันวาน sweet memory จริงๆ ค่ะ

    มาดูภาพกันดีกว่านะคะ








    (ภาพด้านบน) เรือกอนโดล่า ในเมืองเวนิส หรือ Venezia เวเนซเซีย ภาษาอิตาเลี่ยน ซึ่งครั้งแรกที่มาเที่ยวนี้ไม่รู้เลยนะคะว่าเค้าเรียกเมือง Venice --- Venezia นึกว่าเป็นภาษาท้องถิ่น เมื่อมาจริงๆ ก็ได้เรียนรู้คำศัพท์ชื่อเมืองต่างๆ มากมายที่เป็นภาษาอิตาเลี่ยน แถมตัว “Z” เขาออกเสียงไม่เหมือนภาษาอังกฤษอีกต่างหาก นั่งฝึกกันนานพอสมควรกว่าจะออกเสียงแบบเจ้าของภาษาได้ เวนิซ Venice = เวเนซเซีย Venezia
    ตัว “Z” ออกเสียงเหมือน “TS” ควบเข้าด้วยกัน ใครมีเพื่อนอิตาเลี่ยนลองให้เค้าออกเสียงดู ไม่เหมือนภาษาอังกฤษเลยค่ะ


    (ภาพด้านบน) ภาพจากโปสการ์ด เมืองเวนิซในฤดูหนาว มีน้ำท่วมเข้ามาถึงลานด้านในของตัวเมืองแทบทุกปี


    (ภาพด้านบน) ตั๋วข้ามฟากจากเมืองเวนิซ ไปเกาะมูราโน่ เกาะนี้เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องเครื่องเป่าแก้วค่ะ มีข้าวของเครื่องใช้คุณภาพดีที่ทำจากแก้วผลิตจากโรงงานในมูราโน่ มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งอิตาลี


    (ภาพด้านบน) สะพานเก่าแก่ในเมืองฟรอเรนซ์ Il Ponte Vecchio เป็นสะพานที่รอดเดียวในเมืองที่รอดจากภัยสงครามโลกมาได้ ช่วงสงครามอิตาลีโดนโจมตีหนักมากค่ะ เพราะในสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้นำมุสโสลินีตัดสินใจไปอยู่ฝ่ายนาซีกับเยอรมัน ประเทศอิตาลีเลยโดนฝ่ายพันธมิตรโจมแบบเต็มๆ ท้ายที่สุดก็แพ้สงคราม ประเทศบอบช้ำมากๆ สะพานรอดมาได้เลยกลายเป็นสะพานที่มืชื่อของเมืองนี้ ปัจจุบันได้รับการบูรณะหลายครั้ง และเป็นแหล่งดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
    ฟรอเรนซ์ Florence = ฟิเรนเซ่ Firenze


    (ภาพด้านบน) ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Uffizi พิพิธภัณฑ์นี้ใครไม่ได้ไปก็ถือว่าไปไม่ถึงฟรอเรนซ์นะคะ อันนี้ชาวอิตาเลี่ยนเค้าบอกมากอีกที เอาเป็นว่าที่นี่คนเข้ามาเยอะมาไม่เว้นแต่ละวัน ต้องเข้าแถวกันนานพอสมควร แนะนำให้ไปแต่เช้าๆ ค่ะ ข้างในนั้นมีผลงานศิลปะคุ้มค่าสมควรแก่การมาเยือนอย่างยิ่ง เป็นสถานที่ที่รวบรวมความเป็นศิลป์แบบอิตาเลี่ยนของแท้ไว้อย่างมากมาย แม้คนที่บอกว่าไม่ค่อยสนใจงานศิลปะยังต้องทึ่งไปกับผลงานสุดยอดของศิลปินชาวอิตาเลี่ยนในอดีต ใครวางแผนมาเที่ยวฟรอเรนซ์ไม่ควรพลาดการมาเยือนพิพิธภัณฑ์ Uffizi นะคะ


    (ภาพด้านบน) ร้านอาหารประทับใจ สไตล์ฟรอเรนซ์ Trattoria Storica Fiorentina บรรยากาศเหมือนเป็นสวน อาหารอร่อย เลยเก็บบัตรร้านอาหารมาไว้เป็นความทรงจำ


    (ภาพด้านบน) เดินทางมาถึงกรุงโรม หรือ Roma สถานที่ประทับใจนั้นมีเยอะเหลือเกินค่ะ แต่ที่ชอบมากที่สุดคือน้ำพุเทรวี Fontana di Trevi หรือ ฟอนตาน่า ดิ เทรวี
    โรม Rome = โรม่า Roma


    (ภาพด้านบน) พิพิธภัณฑ์วาติกัน Vatican Museum หรือภาษาอิตาเลี่ยน Museo Vaticano พิพิธภัณฑ์นี้มีอะไรมากมายให้ดู ใหญ่โต คุ้มค่าเมื่อได้ไป มีผลงานอันหลากหลายของศิลปินอิตาเลี่ยนที่มีชื่อเสียง และข้างในยังมี Sistine Chapel ซึ่งทั่วทั้งเพดานด้านบนเต็มไปด้วยภาพเขียนจากไมเคิ่ลเองเจโล่ รวมทั้งภาพอันเลื่องลือ Creation of Adam ที่เห็นกันบนตั๋วใบนี้ล่ะค่ะ ใครมีโอกาสไปกรุงโรม พลาดไม่ได้ที่จะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์นี้นะคะ


    (ภาพด้านบน) อันนี้ลองมาวาดแผนที่ประเทศอิตาลีค่ะ ได้รู้ที่ตั้งของเมืองที่ไปด้วย วาดสนุกๆ นะคะ อยากรู้ว่าออกมาเป็นยังไง


    (ภาพด้านบน) บ้านพักร้อนบนภูเขา ชื่อหมู่บ้าน Zelbio ค่ะ ปัจจุบันเรามาเที่ยวกันทุกปี อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาปโคโม่ บรรยากาศเป็นธรรมชาติมากๆ เลยค่ะ


    (ภาพด้านบน) ปิดท้ายขอแปะภาพผู้เขียนกับสามีไว้หน่อยนะคะ คริคริคริ --- คนเที่ยวและคนพาเที่ยวค่ะ




    (ภาพด้านบน) อันนี้ของแถมนะคะ ผู้เขียนสะสมเหล็กติดตู้เย็น แบบเป็นของที่ระลึกจากเมืองต่างๆ มีใครชอบสะสมแบบนี้บ้างรึป่าวคะ ที่บ้านผู้เขียนมีเยอะมากมายจากหลายเมือง เริ่มจะเต็มหน้าตู้เย็นแล้วค่ะ แต่เมื่อไปเมืองใหม่ๆ ก็อดไม่ได้ที่ต้องซื้อทุกที

    Scrapbook ทำกันสนุกๆ นะคะ เป็นบันทึกความทรงจำในการเดินทาง เก็บรายละเอียดไว้มาดูแล้วก็รู้สึกดี จำได้ค่ะว่าไปไหน ทำอะไรมาบ้าง ใครมีโอกาสได้ทำ scrapbook สวยๆ ฝากมาให้ดูกันหน่อยนะคะ

    ขอบคุณที่แวะมาทักทาย เจอกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ