Monday, December 28, 2015

บรรยากาศคริสต์มาสและตลาดนัดคริสต์มาส เมือง Milan ประเทศอิตาลี

ภาษาอิตาเลี่ยนวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า Natale
อ่านว่า นาตาเล (Stress คำว่า “ตา”)
ภาษาไทยแปลว่า คริสต์มาส
ภาษาอังกฤษ คือ Christmas

สวัสดีพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่รักทุกท่านค่ะ
บล็อกคริสต์มาสปีนี้มาช้านิดนึง เพิ่งมีเวลาอัพเดท ^_^
ช่วงนี้เอิงยังยุ่งอยู่กับสมาชิกในบ้านคนใหม่ ลูกชายช้างน้อย
ตอนนี้ 3 เดือนกว่าแล้ว คุณแม่มือใหม่ต้องจัดการหลายอย่างเลย
ยังไงถ้ามีเวลา มีโอกาสจะมาอัพเดทเล่าสู่กันฟังเรื่อยๆ นะคะ


เดือนธันวาคมของทุกปี บริเวณลานกว้างกลางเมืองมิลานจะคึกคักเป็นพิเศษ
ที่ Piazza del Duomo ทางการจะจัดตั้งต้นคริสต์มาสประจำเมืองไว้
บริเวณรอบๆ นั้นมีการจัดตลาดนัดคริสต์มาส
ผู้คนนิยมมาเดินเล่น เดินช้อปปิ้งกันคึกคัก นักท่องเที่ยวก็มาเยอะเช่นกัน
ปีนี้ที่บ้านเรามีสมาชิกตัวน้อยเพิ่มมาหนึ่งคน
เอิงเลยไม่ได้ช้อปมาก แค่ออกไปเดินเล่น เปลี่ยนบรรยากาศ
เลยถือโอกาสเก็บภาพมาฝากให้ทุกคนได้ดูกันด้วย ชมเพลินๆ นะคะ

มาดูภาพกันเลยค่ะ
บริเวณหน้ามหาวิหาร Duomo di Milano










ปีนี้ต้นคริสต์มาสผอมเพรียว 555 สเลนเดอร์มาก อิอิ
(เมืองแฟชั่นสงสัยต้นคริสต์มาสอินเทรนด์หุ่นนางแบบ)








ภายในบริเวณ Galleria Vittorio Emanuele II
มีต้นคริสต์มาสจากสปอนเซอร์ Swarovski ตั้งอยู่ใจกลางบริเวณนี้
(ในภาพดูมืดๆ นิดนึงนะคะ แต่ของจริงอลังการมาก)








ร้านขายของที่ระลึกอย่างเป็นทางการของเมืองมิลาน
มีของที่ระลึก ของแต่งบ้านนิดๆ หน่อยๆ และมีขนมปัง Panettone ขายด้วย







Panettone (ปาเน็ตโตเน่) ขนมปังอบกับผลไม้แห้ง นิยมทานกันช่วงคริสต์มาส







รถสามล้อ บริการนักท่องเที่ยวในย่าน Piazza del Duomo







บรรยากาศตลาดนัดคริสต์มาส คนมาช้อปปิ้งคึกคัก







ร้านค้าส่วนใหญ่จะขายของกิน ของทานเล่น เช่น
ผลไม้แห้ง แฮม ชีส ช็อคโกแลต ฯลฯ
ของแต่งบ้านก็มีบ้าง และพวกเครื่องกันหนาว เช่น ถุงมือ หมวก ผ้าพันคอ ฯลฯ



ร้านขายผลไม้แห้ง (ชั่งเป็นกรัมขาย)
มีผลไม้แห้ง ผลไม้อบกับน้ำตาล และผลไม้แห้งเคลือบช็อคโกแลต












ร้านขายแยม น้ำผึ้ง ลูกอมผลไม้ ฯลฯ มีเยอะเหมือนกัน







ร้านนี้ขายขนมที่ทำจากอัลมอนด์บด ในสไตล์ที่ทำกันในเกาะซิซิลี (ทางใต้ของอิตาลี)
ขนมอบคล้ายคุ้กกี้ ส่วนผสมหลักคืออัลมอนด์บด และน้ำตาล









Frutta Martorana ฟรุตตา มาร์โตราน่า
ลูกชุปในแบบอิตาเลี่ยน ข้างในคืออัลมอนด์บด และน้ำตาล ปั้นเป็นก้อน
ชุปวุ้น ตกแต่งสีผสมอาหาร ทำเป็นรูปผลไม้ต่างๆ








ของคาวก็มีค่ะ ก้อนกลมๆ และก้อนทรงรูปรีๆ คือข้าวปั้นชุบแป้งทอด
ข้างในสอดไส้ชีส และมะเขือเทศ
ด้านซ้ายของภาพ คือแป้งทอด Panzerotti แป้งคล้ายแป้งที่ทำพิซซ่า
สอดไส้ชีส มะเขือเทศ แล้วนำไปทอด








สตรูเดิ้ล Strudel ขนมอบสอดไส้ผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล เบอร์รี่ต่างๆ
ร้านนี้มีขายไวน์ต้มร้อน Vin Brulé ด้วย










ขนมปังอบ สอดไส้ครีม ในแบบต่างๆ จากทางใต้ของอิตาลี








ของแต่งบ้านก็มีมาบ้างค่ะ








ร้านขายถ้วยชาก็มี ลายสวยๆ น่าใช้มีหลายแบบ
ส่วนใหญ่ Made in England










ร้านขายไส้กรอก แฮม cured meat ในแบบต่างๆ ปีนี้มีเยอะเช่นกัน







ร้านนี้ขาย Truffle ส่วนใหญ่คนซื้อนำไปปรุงกับพาสต้า
(กลิ่นเหม็นตุๆ แต่หลายคนก็ชอบรับประทานกัน)







ร้านขาย Salame, Cheese มีให้เห็นทั่วไป









Torrone ตอร์โรเน ขนมตังเมในแบบอิตาเลี่ยน
ส่วนผสมหลักคือไข่ขาวเคี่ยวกับน้ำตาล ผสมถั่วหลายๆ แบบ หรือผสมผลไม้แห้ง









ร้านขายของแต่งบ้าน ดอกไม้แห้ง ของใช้กระจุ๋มกระจิ๋ม











ขนมปังอบ Panettone ปาเน็ตโตเน่
ช่วงนี้คนอิตาเลี่ยนซื้อมารับประทานกันเป็นว่าเล่น
เป็นขนมปังที่นิยมทานในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ทานเป็นของว่าง อาหารเช้า
หรือ ทานหลังมื้ออาหารหลัก ก็ได้






ร้านขายของหมักดอง ก็นิยมค่ะ
เช่น มะกอกดอง แตงกวาดอง พริกในแบบต่างๆ ฯลฯ
(พริกมาจากเขต Calabria ทางใต้ของอิตาลี)








หน่วยรักษาความปลอดภัย ตำรวจประจำการเพียบ
มีอย่างนี้ทุกเมืองใหญ่ๆ ในอิตาลีค่ะ








วันที่เอิงไปเดินตลาดนัดคริสต์มาส นายกเทศมนตรี Giuliano Pisapia มาด้วย
วันนั้นถ้าจำไม่ผิด จะมีพิธีอะไรสักอย่างของทางการ
(นายกเทศมนตรี คือคนที่ใส่สายสะพายธงชาติอิตาลี เขียว ขาว แดง)







สุดท้าย อยากฝากผลงานหนังสือที่เอิงรวบรวมข้อมูลเอง
หนังสือไกด์บุ๊คท่องเที่ยวอิตาลี ชื่อหนังสือ อิตาลี ฉันรักเธอ Italia Ti Amo
Credit ภาพจาก สำนักพิมพ์สารคดี Sarakadee Press




หนังสือนี้เขียนเพื่อคนที่อยากเดินทางมาอิตาลี แต่มีเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์
จะเน้นเฉพาะเมืองใหญ่ๆ และเมืองที่น่าสนใจ
โรม เวนิส ฟลอเรนซ์ ปิซ่า มิลาน โคโม เบลลาโจ้ ตูริน เวโรน่า ลุคคา
เมืองติดทะเล 5 เมืองในแถบ Cinque Terre
มีไฮไลต์ทางใต้ คือ เนเปิ้ลส์ และปอมเปอี
เผื่อเป็นทางเลือกไว้สำหรับนักเดินทางอีกเล่มหนึ่ง
วางแผงแล้ววันนี้ ขอฝากผลงานไว้ด้วยนะคะ



สุดท้ายนี้อยากขอขอบคุณพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ทุกท่านที่ส่งข้อความทักทายมา
ผ่านทางบล็อก ผ่านเฟ้สบุ้ค ยังคิดถึงกันอยู่เสมอ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ขอสวัสดีปีใหม่ 2016/2559 แด่ทุกท่าน
ขอให้มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา
แล้วเจอกันใหม่ blog หน้าค่ะ

P.S. เอิงเปิดคอมเมนต์ไว้นะคะ อาจไม่มีเข้าไปทักทายเพื่อนๆ บล็อกเกอร์ทันท่วงที
ไว้มีโอกาสจะทะยอยไปสวัสดีทุกคนค่ะ

Tuesday, November 3, 2015

ฤดูใบไม้ร่วงที่มิลาน + หนังสืออิตาลี ฉันรักเธอ Italia Ti Amo


ภาษาอิตาเลี่ยนวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า Autunno
อ่านว่า เอา-ตุน-โน (Stress คำว่า “ตุน”)
ภาษาไทยแปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง
ภาษาอังกฤษ คือ Autumn, Fall


สวัสดีพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่รักทุกท่านค่ะ
ไม่ได้อัพ blog นานมาก หลายเดือนเลยทีเดียว
เพราะว่าที่ผ่านมาครอบครัวเรามีสมาชิกใหม่เพิ่มมา 1 คนค่ะ
Welcome! Baby Boy ^_^
ช่วงนี้เลยต้องทำหน้าทีคุณแม่ ยุ่งมากทีเดียวแต่เรียกว่ามีความสุข
ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะ อย่างไรก็ตามยังคิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ตามอ่าน blog อยู่เสมอ
และขอบคุณสำหรับข้อความที่ฝากไว้หลังไมค์ หน้าไมค์ ผ่านทางเฟ้สบุ้ค
ขออภัยด้วยถ้าไม่ได้ตอบทันท่วงที ยังไงก็จะพยายามหาเวลามาทักทายนะคะ

อยากนำภาพที่ถ่ายเก็บไว้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ฤดูใบไม้ร่วง เมืองมิลาน อิตาลี ปี 2015
ปีนี้เท่าที่ผ่านมา อากาศไม่หนาวอย่างที่คิด มีแดดเกือบทุกวัน
เรียกว่าออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้ตลอด
มาชมภาพกันเลยค่ะ



Duomo di Milano ดูโอโม ดิ มิลาโน
มหาวิหารใจกลางเมือง ยังมีนักท่องเที่ยวมากันเยอะตลอดปี






Galleria VE II กัลเลเรีย ใกล้กับดูโอโม่
วันนั้นที่ไปคนเยอะมาก (ช่วงราวปลายกลางเดือนตุลาคม)







ร้านขายเจลาโต้ มีรอบๆ ดูโอโม
ยังขายดีค่ะ นักท่องเที่ยวหรือคนในมิลานทานกันได้ตลอด






แวะไปร้าน Ladurée เดือนพฤศจิกายนนี้มีกล่องใหม่
ซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกนิดนึง ชอบกล่องนี้จัง







ภาพใบไม้เปลี่ยนสีใกล้บ้าน
ช่วงนี้อากาศยังโอเคอยู่ 15-17c ตอนกลางวัน

















สุดท้าย อยากฝากผลงานหนังสือที่เอิงรวบรวมข้อมูลเอง
หนังสือไกด์บุ๊คท่องเที่ยวอิตาลี ชื่อหนังสือ อิตาลี ฉันรักเธอ Italia Ti Amo
Credit ภาพจาก สำนักพิมพ์สารคดี Sarakadee Press





หนังสือนี้เขียนเพื่อคนที่อยากเดินทางมาอิตาลี แต่มีเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์
จะเน้นเฉพาะเมืองใหญ่ๆ และเมืองที่น่าสนใจ
โรม เวนิส ฟลอเรนซ์ ปิซ่า มิลาน
โคโม เบลลาโจ้ ตูริน เวโรน่า ลุคคา
เมืองติดทะเล 5 เมืองในแถบ Cinque Terre
มีไฮไลต์ทางใต้ คือ เนเปิ้ลส์ และปอมเปอี
เผื่อเป็นทางเลือกไว้สำหรับนักเดินทางอีกเล่มหนึ่ง
ขอฝากผลงานไว้ด้วยนะคะ

เปิดตัวที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่ผ่านมาสดๆ ร้อน ช่วงปลายเดือนตุลาคม
ตอนนี้เริ่มวางแผงขายตามท้องตลาดแล้ว
ใครที่ไม่ได้ผ่านไปช่วงงานหนังสือ ทางสำนักพิมพ์สารคดีมีโปรฯพิเศษ
สั่งซื้อ 1-15 พฤศจิกายนนี้ จัดส่งถึงบ้านค่ะ
ติดตามรายละเอียดการซื้อได้ในลิงค์นี้
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.901008569947359.1073741840.125939607454263&type=3


อยากขอบคุณสำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ถามไถ่ ทักทายมาตลอด
ยังไงช่วงนี้เอิงขอไปทำหน้าทีคุณแม่ก่อน
ไว้มีโอกาส มีเวลา จะอัพเดทข่าวคราวผ่านทาง blog มาเล่าสู่กันฟังแน่นอน
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


ปล. Blog เอิงเปิดคอมเมนต์ไว้ แต่อาจไม่ได้ตอบกลับไปทักทายใครทันท่วงที
ช่วงนี้เวลาจำกัดจริงๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณแม่มือใหม่ด้วย ^_^
อย่างไรก็ตามถ้ามีโอกาสจะแวะไปทักทายเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นะคะ

Friday, February 13, 2015

เที่ยวงานประจำปี Sant’Orso ของเมือง Aosta ประเทศอิตาลี


ภาษาอิตาเลี่ยนวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า Legno
อ่านว่า เลน-โญ (Stress คำว่า “เลน”)
Smiley ภาษาไทยแปลว่า ไม้ SmileySmiley ภาษาอังกฤษ คือ Wood Smiley

สวัสดีพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่รักทุกท่านค่ะ
เมื่อวันที่ 30-31 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา
เอิงได้มีโอกาสไปเที่ยวงานประจำปีของเมือง Aosta (อา-ออส-ต้า)
งานนี้ชื่อว่างาน Sant’Orso (ซานตอร์โซ)
เป็นงานที่เมือง Aosta จัดขึ้นทุกปี ในช่วงปลายเดือนมกราคม
ลักษณะของงานนั้น เป็นงานแสดงสินค้าพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์ที่ทำในท้องถิ่น
เช่น ผลิตภัณฑ์งานแกะสลักไม้ ของใช้ในครัวเรือนที่ทำจากไม้
งานผ้าต่างๆ เช่น เสื้อไหมพรม ผ้าพันคอ ถุงมือ ฯลฯ
ของแต่งบ้าน เครื่องประดับ
เรียกว่านำเอางานฝีมือคนท้องถิ่นมาให้ชมกันหลากหลายทีเดียว
เป็นงานใหญ่พอสมควรค่ะ มีคนเดินทางมาจากหลายเมือง ประเทศใกล้เคียง
(เช่น ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลน เยอรมัน ฯลฯ) มาร่วมงานกันเยอะ
นอกจากนั้นก็มีอาหารท้องถิ่น ไวน์ ชีส ขนมหวาน ฯลฯ ขายในงานอีกด้วย

หากใครมีโอกาสไปอิตาลีในช่วงปลายเดือนมกราคม
ลองหาเวลาแวะไปงาน Sant’Orso ที่เมือง Aosta ดูนะคะ
ว่าแล้วเรามาชมภาพกันเลยดีกว่าค่ะ

บรรยากาศงานในคืนวันศุกร์ที่ 30 มกราคม









ผลงานที่ทำจากไม้แกะสลัก ของใช้ในบ้าน ของประดับบ้าน








งานไม้แกะสลัก ประดับไว้ตรงบริเวณลานกว้าง ใจกลางเมือง
(มีหิมะตกมาพอสมควรในคืนก่อนหน้านั้น)








ผลงานตะกร้าสาน ของน่ารักน่าใช้










ป้ายงานที่เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส
เมือง Aosta อยู่ติดชายแดน อิตาลี-ฝรั่งเศส จะเห็นป้ายเป็นภาษาฝรั่งเศสเยอะทีเดียว








ผลงานไม้แกะสลัก ประดับอยู่ตรงส่วนหนึ่งในตัวเมือง








ลังไม้สำหรับเก็บไวน์










บรรยากาศในงานด้านหนึ่งของเมือง เช้าวันเสาร์ 31 มกราคม
ผู้คนเริ่มมาเดินเที่ยวกันคึกคัก








ผลงานไม้แกะสลัก ขนาดใหญ่พอสมควร ที่ผู้คนเข้ามาชมมากมาย







ตุ๊กตาไม้แกะสลัก ขนาดใหญ่ หลายคนมาถ่ายรูปกัน









ไม้แกะสลักที่น่าสนใจอีกแบบ เหมือนใบไม้ที่ละลายอยู่บนขอนไม้








ประตูเมือง Aosta








บรรยากาศใกล้ช่วงเที่ยงวันเสาร์ 31 มกราคม 2558
ผู้คนมาเดินกันแทบเต็มถนน อากาศเริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆ









ชีส Fontina (ฟอนทีน่า) ชีสที่ขิ้นชื่อของเมือง Aosta







ผลงานที่ทำจากไม้ ใช้วางขนมปัง







ไม้แกะสลักเป็นรูป Pinocchio







งานแกะสลักไม้ สวยงาม ใบไม้ที่เป็นสีอ่อนนั้นก็ทำจากไม้ค่ะ







ตุ๊กตาไม้ เห็นแล้วอยากได้ไว้ไปประบ้านสักนิด ^_^







ถ้วยที่ทำจากไม้นี้ชื่อ Coppa dell’Amicizia (คอปป้า เดล อามิชิเซีย)
ถ้วยแห่งความสัมพันธ์ฉันเพื่อน --- แปลเก๋ๆ เองนะคะ อิอิ






ถ้วย Coppa dell’Amicizia เป็นธรรมเนียมประเพณีของชาวออสต้า
ที่ดื่มร่วมกันระหว่างเพื่อนฝูง
เอิงได้ซื้อกลับบ้านมาหนึ่งถ้วยด้วยค่ะ
คนขายให้สูตรผสมเครื่องดื่ม เพื่อใส่ในถ้วยมา
Recipe for 4 people
- 4 cups of hot coffee
- 4 glasses of grappa (50-60 degree) and a glass of Cointreau or Genepy
- Some lemon and orange peels
- 8-10 teaspoons of sugar

เรียกว่าเครื่องดื่มนี้เน้นกาแฟ ผสมเหล้า 50 -60 ดีกรี
ดื่มเพื่อสังสรร ฉลองกับเพื่อนฝูงจริงๆ




คืนวันศุกร์ที่ 30 มกราคม นั้น ได้มีโอกาสไปทานร้านอาหารอร่อยในเมือง Aosta
ชื่อร้าน Osteria da Nando
(ร้านนี้อาหารของเค้าอร่อยจริงๆ นะคะ)
ใครชอบอาหารอิตาเลี่ยนสไตล์ชาวบ้านบนเขา ต้องลองไปชิมดู


จานนี้เป็น Antipasti
คือ Cotechino (เนื้อหมูบดผสมมันหมู) ราดชีส Fontina เสิร์ฟกับหอมใหญ่







Affettati คือ แฮมในแบบต่างๆ เสิร์ฟพร้อมกับ Chestnuts เชื่อม







Banga Caoda บานญา คาวดา
จานนี้เป็นอาหารอิตาเลี่ยนในแถบเขต Piemonte
คือผักสด จิ้มกับ น้ำซอส (ซอสทำจากปลาแอนโชวี่)







จานนี้ชื่อ Bourguignonne (เบอร์กินญอง)
เนื้อจิ้มจุ่ม ทอดในกระทะเล็กๆ
เสิร์ฟพร้อมน้ำซอสหลายแบบ











Primo อาหารคอร์สที่หนึ่ง
Polenta della Casa
คือ โพเลนต้า (grined corn seeds) เสิร์ฟมาพร้อมไข่ดาว
เป็นสูตรของร้านนี้โดยเฉพาะ
ปกติ Polenta ทานได้กับซอส หรือ เนื้อสัตว์ หรือ ชีส แล้วแต่คนทำจะชอบทานกับอะไร
ทางเขต Lombardia (Lombardy)
โดยเฉพาะในมิลาน นิยมทาน Polenta เช่นกันค่ะ







เครปทอดสอดไส้แฮม ราดด้วยชีส







Café gourmand กาแฟเสิร์ฟกับของหวานชิ้นเล็กๆ หลายแบบ






ของหวาน : พุดดิ้ง ราดซอสครีม โรยด้วยผงโก้โก้







ของหวานอีกจาน : พุดดิ้ง(ลักษณะเนื้อแน่นคล้าน ปันนา ค้อตต้า)
ราดซอสราสพ์เบอร์รี่ เสิร์ฟกับลูกแพร์เชื่อม







ดินเนอร์มื้อค่ำนี้เอิงไปทานกับเพื่อนๆ รวม 4 คนค่ะ
เราสั่งอาหารกันมาลองหลายเมนู ไม่ให้ซ้ำกันจะได้ชิมหลายอย่าง
เป็นมื้ออร่อยในแบบสไตล์อิตาเลี่ยน อาหารท้องถิ่นเมือง Aosta
นานๆ จะมีโอกาสมาเที่ยวที่นั่น เลยต้องลองซะนิด


ทริปนี้น่าประทับใจทีเดียว ได้ชมสินค้าพื้นเมือง คุณภาพ ฝีมือดีจากคนที่นั่น
และได้ลองชิมอาหารหลากหลาย
หากใครมีโอกาสไปเที่ยวอิตาลี ลองแวะไป Aosta ดูนะคะ

อิตาลียังอยู่ในช่วงฤดูหนาว (แต่เริ่มจะเข้าสู่ช่วงปลายแล้ว)
อีกไม่นานฤดูใบไม้ผลิจะกลับมา อากาศจะอุ่นขึ้นอีกเยอะ
เอิงคงหาเวลาไปเที่ยวเมืองอื่นที่น่าสนใจอีก
ขอบคุณที่ผู้อ่านหลายคนที่ยังติดตาม ทักทายกันอยู่เสมอ
พบกันใหม่บล้อกหน้าค่ะ ^_^