อ่านว่า ชิง-เคว (Stress คำว่า “ชิง”) “คว” ออกเสียงควบกัน
ภาษาไทยแปลว่า ห้า
ภาษาอังกฤษ คือ Five
แถมให้อีกคำคือ Terre (คำเอกพจน์)
อ่านว่า เท-เร (Stress คำว่า “เท”)
ภาษาไทยแปลว่า แผ่นดิน
ภาษาอังกฤษ คือ Lands
*Note* คำพหูพจน์คือ Terra (เท-รา)
Cinque Terre (ชิงเคว เทเร) แปลว่า 5 แผ่นดิน, แผ่นดินทั้งห้า
ภาษาอังกฤษ Five Lands
สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องๆ ที่น่ารักทุกท่าน
วันนี้อยากพามาเที่ยวเมืองติดทะเลในเขต Liguria ประเทศ Italy
มีเมือง 5 เมืองอยู่ติดกัน รู้จักกันในนาม Cinque Terre
(ชิงเคว เทเร) Five Lands
ทั้งหมดอยู่ใน Province La Spezia
ทั้งยังเป็นเมืองที่ได้รับการยกให้เป็น UNESCO World Heritage
เพราะชายหาด ทะเล ภูเขา ในแถบนั้นเป็นพื้นที่อนุรักษ์ของประเทศอิตาลี
มารู้จักชื่อกันดีกว่า เมืองทั้งห้ามีอะไรบ้าง ^.^
หนึ่ง เมือง Monterosso al Mare (มอนเตรอสโซ อัล มาเร)
สอง เมือง Vernazza (เวร์นาซซา)
สาม เมือง Corniglia (คอร์นีเลีย)
สี่ เมือง Manarola (มานาโรลา)
ห้า เมือง Riomaggiore (ริโอมัจจอร์เร)
*Note*
ข้อมูลในบล็อกนี้อาจเขียนให้อ่านเยอะหน่อยนะคะ
เพราะต้องการให้ข้อมูลอัพเดทล่าสุดสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปที่นั่น
เผื่อพี่ๆ น้องๆ ท่านใดสนใจ สอบถามมาได้ ยินดีให้ข้อมูลเต็มที่ค่ะ
Updated News
วันที่ 25 ตุลาคม 2011 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่
มีโคลนถล่ม mudslide ในดินแดนแถบนั้น
ที่เสียหายหนักคือ เมือง Monterosso, Vernazza
ปัจจุบัน บ้านเรือน ถนน ร้านค้า ได้รับการปรับปรุงจนเกือบเข้าสู่สภาพปกติ
(ยังเห็นร่องรอยความเสียหายจากถนน บ้านเรือนอยู่บ้าง)
ทางเดินป่า Blue Trail คือทางเดินที่เชื่อมระหว่าง Cinque Terre
ได้รับความเสียหายหนักพอสมควร
นี่เป็นข้อมูลล่าสุดที่ได้รับจาก Tourist Information
Updated ณ วันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ.2012
Blue Trail ทางเดินป่า: Cinque Terre
Monterosso – Vernazza : Open เปิดทำการตามปกติ
Vernazza – Corniglia : Closed ปิดปรับปรุง
Corniglia – Manarola : Closed ปิดปรับปรุง
Manarola – Riomaggiore : Open เปิดทำการตามปกติ
Vernazza – Corniglia, Corniglia – Manarola ทางเดินป่า
ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมและโคลนถล่ม
ทางการจึงปิดปรับปรุง (ชั่วคราว) เพื่อความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
ยังไม่ได้กำหนดวันเปิดทำการ
ส่วน Train “รถไฟ” ไม่มีปัญหา เปิดทำการตามปกติ
สามารถเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ได้โดยรถไฟ
ซึ่งวิ่งระหว่างเมืองทั้ง 5 แทบทุก 15-20 นาที
แนะนำให้ซื้อ Cinque Terre Card บัตรผ่านการเดินทางในหนึ่งวัน
สามารถใช้ขึ้นรถไฟระหว่างห้าเมืองได้ทั้งวัน unlimited
และสามารถใช้เดินผ่านข้าม Trails ในเขตต่างๆ ของเมืองได้
ราคาคือ 10 ยูโร ต่อคน (สำหรับ 1 วัน)
ตอนที่ 1 มารู้จักเมือง Monterosso al Mare กันค่ะ
(หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า Monterosso)
มีสองส่วน คือ Old Town, New Town
Old Town คือส่วนที่มีปราสาทของเมือง โบสถ์ และรูปปั้นยักษ์
New Town ส่วนที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ท่าเรือเฟอร์รี่
ทั้งสองเมืองมี โรงแรม B&B ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
การเดินทาง: รถไฟสะดวกที่สุด
นั่งมาจากมิลานใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (Inter City Train)
เมืองนี้มีชื่อเสียงคือมีสถานที่รองรับสำหรับคนชอบชายหาด
เล่นน้ำทะเล, อาบแดด ฯลฯ
และที่สำคัญคือเหมาะสำหรับคนชอบเดินป่า Hiking
เพราะนอกจากจะมีทะเลสวยๆ แล้ว ยังมี Trail สำหรับการเดิน
อยู่บนภูเขาที่ติดกับชายหาดอีกด้วย
Blue Trail คือ ชื่อทางเดินทื่เชื่อมระหว่าง Monterosso-Vernazza
ได้เปิดทำการตามปกติในปีนี้
(ก่อนหน้าปิดชั่วคราวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโคลนถล่ม)
มาชมภาพกันดีกว่าค่ะ
ชายหาดของเมือง Monterosso al Mare
แผนที่เมือง Monterosso al Mare
ร้านขายของที่ระลึก ตั้งอยู่มากมายตามถนนริมหาด
เห็นแกะสลักคน (ตัวใหญ่) นั่งอยู่บนโขดหินมั้ยคะ?
นั่นคือ Monterosso Giant ยักษ์ประจำเมือง
ชื่อภาษาอิตาเลี่ยน Il Gigante อิล จิกานเต
(หน้าตาสู้ยักษ์วัดพระแก้วเมืองไทยไม่ได้ 555+)
สร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ.1910 โดยศิลปินชาวอิตาเลี่ยนเชื้อสายยิว
ชื่อ Arrigo Minerbi เพื่อต้องการให้เป็นสัญลักษ์ของความยิ่งใหญ่
รูปแกะหลักจากหินนี้โดนระเบิดเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ทำแขนหัก และหายไปในทะเล
ปัจจุบันทางการยังรักษาไว้ และกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ Monterosso
ชายหาดของ Monterosso เห็น Il Gigante รูปปั้นยักษ์อยู่ไกลๆ
พร้อมวิวปราสาท ... ภาพนี้ถ่ายตอนอยู่บนเขา ทางเดินป่า มองลงมาเป็นวิวเมือง
โขดหินริมทะเล ...ฟ้าแจ่ม น้ำทะเลใสจริงๆ
กีฬาทางน้ำเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่นั่น
มีทั้งเรือคะนู, เรือปั่นด้วยเท้า... (บานาน่าโบ๊ท ไม่มีค่ะ 555+)
น้ำทะเลใสแจ๋ว มองเห็นก้อนหินที่อยู่ใต้ทะเล ^.^
มีร้านอาหารเล็กๆ อยู่รายรอบริมหาด
วิวจากร้านอาหาร... มองเห็นท้องฟ้า น้ำทะเลสีเข้ม
ชายหาดอีกด้านหนึ่งของ Monterosso
ท่าเรือสำหรับเรือเล็ก และเรือเฟอร์รี่ในการสัญจร
วิวชายหาด ปราสาท และท่าเรือ Monterosso
ทางเดินบนโขดหิน สำหรับผู้ชอบผจญภัย
อยากลงไปว่ายน้ำด้านล่าง อรึ๋ยๆๆๆๆ
น้ำทะเลใสๆ ... มีโขดหิน... คุณสามีบอกว่ามีหินเหมือนนางเงือกอยู่ด้วย อ๊ะจ๊ากกกส์
ทิวทัศน์ทะเล ท้องฟ้า ชายหาด... มองลงมาจากทางเดินป่า Blue Trail
ชอบวิวนี้จัง มีทั้งปราสาท ชายหาดอยู่ไกลๆ และหินกลางทะเล ^.^
ผู้โดยสารรอขึ้นเรือเฟอร์รี่... มีจุดจอดรับสำหรับเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ใน Cinque Terre
เห็นแถบสีน้ำตาลเป็นยาวลงมามั้ยคะ?
นั่นคือร่องรอยความเสียหายตอนเกิดอุทกภัยและโคลนถล่มในปี 2011
ทางเดินป่า Hiking จะเป็นสัญลักษณ์ขาวแดง
บอกว่าท่านเดินมาถูกทางแล้ว ^.^
ทางเดินป่า Blue Trail เชื่อมระหว่าง Monterosso-Vernazza
ทางเดินป่าบางช่วงเป็นทางชัน ขั้นบันได
แนะนำให้ผู้มาเดินสวมรองเท้าเดินป่า รองเท้ากีฬา
(รองเท้าแตะไม่เหมาะ... อาจเดินลำบาก... แต่ก็ยังเห็นคนใส่มาเดินกัน 55+)
ทางเดินข้ามสะพาน เห็นสะพานเล็กๆ น่ารักดี ขอถ่ายรูปมาให้ชมกันหน่อย
ระหว่างทางเดินป่า เป็นต้น Lemon ออกลูกเยอะมาก มีหลายต้นตลอดทางเลยค่ะ
พื้นที่บนเขา ถือเป็นแหล่งเกษตรกรรมสำคัญสำหรับชาว Cinque Terre
มีทั้งต้นเลม่อน, ต้นมะกอก, องุ่น, ผักสวนครัวต่างๆ ฯลฯ
วิวอีกด้านหนึ่งของภูเขาและทะเล เดินมาเกินครึ่งทาง
มุ่งหน้าไปยังอีกเมือง คือ Vernazza
เมือง Vernazza
เอาภาพ Intro เรียกน้ำย่อยมาให้ชมกันก่อน
ไว้บล็อกหน้าจะมาต่อตอนที่สองค่ะ
ตอนนี้ถ้าไม่ได้คุยเรื่องฟุตบอล Euro 2012 คงขาดรสชาดไป อิอิ
ขอคุยหน่อย... เมื่อคืน (วันจันทร์ 18 มิถุนายน)
ทีมอิตาลี ลงแข่งกับทีมไอร์แลนด์ ... นัดนี้สำคัญมาก
เพราะอิตาลีต้องชนะอย่างเดียวถึงจะเข้ารอบสอง
และต้องลุ้นให้อีกคู่ในสาย มีผลแพ้ชนะด้วย (สเปน โครเอเชีย)
ผลคือ อิตาลีชนะ 2-0, สเปนชนะ 1-0
ทั้งสองทีมก็เลยได้เข้ารอบไป... เรียกว่าแฟนคลับทีม Azzurri เฮกันลั่น
เรียกว่าลุ้นจนถึงนาทีสุดท้าย.
เมื่อคืนถ้าใครดูบอลอยู่ในอิตาลีนี่คงได้ยินเสียงโห่ร้องกันบ้างนะคะ...
ถามเพื่อนๆ หลายคนทางเฟ้สบุ๊ค... แต่ละคนบอกว่าจริงด้วย ...เฮกันสนั่นเมือง
อารมณ์นักเตะและแฟนคลับ คงประมาณนี้เลยค่ะ
ได้ดูสัมภาษณ์ Gianluigi Buffon ผู้รักษาประตู หลังการจบการแข่งขัน
เฮียบอกว่าตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะต้องชนะเท่านั้น
...และที่สำคัญขอบคุณ “สเปน” ที่ชนะ 555+
แหมๆๆๆๆ เฮียลุ้นสเปนด้วย ... เอาน่ะ... จขบ.ก็ลุ้นสเปนเช่นกันค่ะ อิอิ
จานลุยจิ บุฟฟ่อน หรือรู้จักกันในนาม “จีจี้ บุฟฟ่อน”
(สวมถุงมือสีขาว ทำตาโตๆๆๆๆๆ) ดีใจมาก เมื่อการแข่งขันจบลง รู้ผลชนะของอิตาลี และสเปน
Monterosso al Mare เป็นเมืองชายหาด น้ำทะเล ท้องฟ้าสีเข้ม
ถือเป็นเมืองสำคัญอีกแห่งสำหรับคนชอบพักผ่อนริมทะเลในอิตาลี
ส่วนทางเดินป่า Blue Trail นั้นไม่ง่ายเลยค่ะ
ทางเดิน Monterosso – Vernazza ยาว 3 km
ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง เพราะมีทางขึ้นลง ค่อนข้างลาดชัด
แต่บางส่วนก็เป็นทางตรงๆ เดินไม่ยาก
แนะนำให้ผู้ต้องการไปเดินป่าสวมรองเท้าที่เดินสบาย
ร่างกายต้องมีความแข่งแกร่งระดับหนึ่ง ... ออกกำลังมาพอสมควร
รองรับการเดินทางสมบุกสมบันได้
สำหรับคนไม่อยากเดินป่า แต่อยากเที่ยวเมืองทั้งห้าของ Cinque Terre
นั่งรถไฟโลดค่ะ ... นั่งสบายๆ ชมวิวริมทะเล สบายใจไทยแลนด์ ^.^
ไว้มาต่อบล็อกหน้า ตอนที่ 2 เที่ยวเมือง Vernazza นะคะ
ปล. เอนทรี่นี้อยู่ใน สาขาไกลบ้าน/ชีวิตในต่างแดน ค่ะ
No comments:
Post a Comment