อ่านว่า วิล-ลาจ-โจ (Stress คำว่า “ลาจ”)
ภาษาไทยแปลว่า หมู่บ้าน
ภาษาอังกฤษ คือ Village
สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องๆ ที่น่ารักทุกท่าน
วันนี้อยากพามารู้จักกับเมืองเล็กๆ แต่สวย ติดทะเลชายฝั่งตะวันตกของอิตาลี
ชื่อเมือง Portofino (พอร์ต-โต-ฟิ-โน) อยู่ในเขต Liguria
เมื่อเอ่ยชื่อนี้ สำหรับชาวอิตาเลียนหลายคนจะนึกถึงหมู่บ้านติดทะเล
มีชื่อเสียงเพราะเป็นเมืองท่า มีเรือ Yacht จอดไว้หลายลำ
เป็นที่กล่าวขานเพราะหลายครั้งที่เดียวจะเห็นดาราภาพยนตร์
นักร้อง นักแสดง ผู้กำกับ ฯลฯ โดยเฉพาะจากฮอลลีวู้ด
มาเดินเล่นพักผ่อนที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้
แต่ถึงท่านไม่ได้เป็นคนดัง celebs หรือผู้มีชื่อเสียงใดๆ ก็สามารถไปเที่ยวได้ค่ะ อิอิ
สำหรับการเดินทางนั้น สามารถไปได้โดยรถไฟ หรือรถยนต์
(สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือเมือง Genova)
หากใครขับรถไปแนะนำให้ไปจอดไว้ที่ฝากรถในเมืองใกล้ๆ ดีกว่า
เช่นเมือง Rapallo แล้วค่อยนั่งเรือเฟอร์รี่ต่อไป
เพราะเมือง Portofino ที่จอดรถน้อยมาก ถนนแคบ ขับยากนิดนึง
เรือเฟอร์รี่จาก Rapallo- Portofino นั่งแค่ 30 นาทีก็ถึงค่ะ
มาชมภาพกันดีกว่า
เมือง Portofino วิวพาโนรามา (ถ่ายจาก Castle Brown)
มองเห็นบ้านสีสวย น้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม
ซูมเข้ามาใกล้นิดนึง หมู่บ้าน Portofino
กับเรือ Yacht ที่จอดอยู่หลายลำ
ภาพนี้มองดีๆ จะเห็นเรือเฟอร์รี่โดยสาร
สำหรับผู้ที่มาเยือนจากเมืองที่อยู่รอบๆ ในเขต Liguria
บรรยากาศโดยรอบหมู่บ้าน Portofino
สำหรับการชมเมืองนั้น “การเดิน” เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดค่ะ
เพราะหมู่บ้านไม่ใหญ่มาก สามารถเดินดูสถานที่ต่างๆ ได้ง่ายดาย
ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึกมีอยู่ทั่วไปรอบๆ เมือง
ราคาสินค้าถูกกว่าในมิลานอีกนะคะ
ยกตัวอย่างเช่น โปสการ์ด 0.30 ยูโร (ที่มิลาน เริ่มต้นที่ 0.80 ยูโร) เป็นต้น
ภาพวาดสวยๆ มีวางขายทั่วไป
คนขายไม่หวงด้วยค่ะ ให้ถ่ายรูปตามสบาย (ใจดีจัง ^^)
หมู่บ้านนี้ต่างไปจากหมู่บ้านอื่นๆ ในอิตาลีนิดนึง
คือมีร้านแบรนด์เนมเต็มไปหมด โอ้โหหหห
มีทั้งร้าน LV, Gucci, Hermes, Dior ฯลฯ
ใครจะมาซื้อมั้ยคะ อิอิ ... นักท่องเที่ยวอย่างเราขอดูเฉยๆ ดีกว่า ^^
ภาพนี้แอบส่อง ... ทำตัวเป็นปาปารัซซี่ 555+
เรือสำราญ, เรือ Yacht จอดอยู่หลายลำ
ถ่ายรูปซะหน่อย บนเรือมีอะไรบ้างหนอ เผื่อเจอดารา (อ้าววว... ไม่เจอใคร 555)
ป้ายนี้อยู่ตรงท่าเรือของเมือง Portofino
มีแร๊ดดดห้อยอยู่ด้วย หุหุ (มันเกี่ยวอะไรกัน 555)
มาชมสถานที่ประวัติศาสต์ของเมืองกันบ้าง
คือ Castle Brown (ภาษาอิตาเลี่ยน Castello Brown)
ถ่ายป้ายมาให้ชม เผื่อใครอยากไปเที่ยว
เปิดทุกวัน 10.00 – 19.00 น. ค่าเข้าชม 5 ยูโร
Castle Brown (ภาษาอิตาเลี่ยน Castello Brown)
ถ่ายจากมุมด้านล่างของเมือง ซูมขึ้นไปเห็นปราสาทตั้งอยู่เด่นชัด
ประวัติโดยย่อของ Castle Brown
(ข้อมูลจากโบรชัวร์ที่ได้รับแจกตอนเข้าชมสถานที่)
สร้างขึ้นประมาณช่วงศตวรรษที่ 15
ปี ค.ศ. 1432 ใช้เป็นป้อมปราการป้องกันเมื่อครั้งมีศึกกับ Venetian galleys
ปราสาทนี้มีผู้ครอบครองเปลี่ยนมือกันหลายคน
รวมทั้งตระกูลดังจากมิลาน Visconti (ครอบครองในปี ค.ศ. 1425-1435)
เคยตกอยู่ใต้การดูแลของ Genoa และประเทศฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1746
แต่ที่ได้ชื่อว่า “Brown” นั้นก็เพราะว่า
ปี ค.ศ. 1876 กงสุลชาวอังกฤษ Montague Yeats Brown ซื้อไว้ครอบครอง
ทำการดูแลตกแต่งอย่างดี แต่ยังคงความสวยงามในรูปแบบเดิมไว้
เจ้าของคนสุดท้ายคือตระกูล Barbers ชาวอังกฤษ
ได้ขายให้กับเทศกาลเมือง Portofino ในปี ค.ศ.1961
ปัจจุบันเป็นสมบัติทางราชการและเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้
(ปล.ใครอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเขียนมาถามได้นะคะ
เพราะข้อมูลจากโบรชัวร์เยอะมาก รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เขียนในบล็อกคงไม่หมด)
ทางเข้า Castle Brown มีสวนดอกไม้สวยๆ ชื่นตาชื่นใจ
ด้านบนของปราสาท มีระเบียงใหญ่ ทำเป็นสวนดอกไม้
ระเบียงและสถาปัตยกรรมภายนอกของปราสาท
สถาปัตยกรรมภายใน คงความเก่า เรียบง่ายไว้
The large polyptych ผลงานศิลปะภายในปราสาท
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1565-1570
Polyptych = Panel painting, divided into sections
คือภาพวาดหลายๆ ชิ้น แล้วมาประกอบรวมกันเป็นภาพเดียว
ผลงานแกะสลักจำลอง เป็น copy จากของจริง
จากผลงานชื่อ The Adoration of the Magi
วันบังเกิดของพระเยซู มีสามนักปราชญ์เข้าเฝ้า
คาดว่าเป็นงานศิลป์จากศตวรรษที่ 15
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นนะคะว่าเมือง Portofino
แม้เป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็มีนักแสดง ผู้มีชื่อเสียง ฯลฯ นิยมมาเที่ยวพักผ่อน
จากอดีต ... ใครเป็นแฟนคลับหนังย้อนยุคอาจคุ้นหน้า Clark Gable
พระเอกจากเรื่อง Gone with the Wind
(งานนี้ประกาศตัวว่า จขบ. เริ่มแก่ค่ะ ...ดูหนังย้อนยุคบ่อยๆ นี่ชั้นแก่แล้วรึนี่ 555+)
นักร้องโอเปร่าชื่อดังในอดีต คือ Maria Callas
(หลายคนอาจเกาหัว แกรกๆๆๆๆ ใครหว่า... ม่ายรู้จัก งุงิ)
ไม่เป็นไรค่ะ จขบ.ก็เพิ่งมารู้จักไม่กี่ปีนี้เอง
เพราะคุณป้า คุณย่า คุณแม่สามีชอบ บอกว่าเธอคือคนดังของอิตาลี
เอาฟ๊ระ ดังก็ดัง 55+... เจอภาพเธอแล้วขอถ่ายรูปมาให้ดูกันหน่อย ^^
แผนที่การเดินทางด้วยเท้าชมเมือง ชมวิวตามจุดสวยๆ
เทศบาล Portofino ทำแผ่นที่ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน
โบสถ์ St.George (San Giorgio ซานจอร์โจ)
จุดชมวิวสวยๆ อีกมุมนึง
San Giorgio คือชื่อนักบุญประจำเมือง Portofino
ภาพหอระฆังที่เห็นไกลๆ ท่าทางกลางวิวของเมือง
คือโบสถ์ซานมาร์ติโน (Chiesa di San Martino)
มาพักเติมกำลัง อาหารเที่ยงกันค่ะ
พิซซ่านี้ชื่อ Portofino สูตรของร้านทำเอง
ใส่มะเขือม่วง และซอส Pesto (ซอสจากใบ basils ที่เป็นส่วนประกอบหลัก)
ซอสเพสโต้ถือว่ามีต้นกำเนิดจากเขต Liguria ของอิตาลี
มาเที่ยวเมืองติดทะเลฝั่งตะวันตกแล้วต้องไม่พลาด Focaccia
(Focaccia = ฟอคาชชา)
คือขนมปังอบ รูปร่างแบน เป็นอาหารคาว
ใส่ toppings ได้หลายแบบ เช่น โรสแมรี่, ชีส, มะกอกเทศ, มะเขือเทศ ฯลฯ
นิยมทานเป็น lunch อาหารเที่ยงง่ายๆ, อาหารว่างยามบ่าย
หรือตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ทานเป็น antipasti ก่อนอาหารหลักก็ได้
ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่ถามไถ่ถึงกันมาเรื่องแผ่นดินไหวในอิตาลีนะคะ
เหตุเกิดล่าสุดคือวันอังคาร 29 พ.ค.ที่ผ่านมา อยู่ในเขต Emilia
ซึ่งไกลจากบ้านเอิงพอสมควร ประมาณ 200 km
ตอนเกิดรู้สึกได้ว่าบ้านสั่นๆ เหมือนนั่งอยู่แล้วมีรถบรรทุกคันใหญ่ หรือรถไฟวิ่งผ่าน
เท่าที่ทราบในมิลานไม่มีรายงานความเสียหาย หรือบาดเจ็บใดๆ
แต่ก็ยังระวังเรื่องข่าวนี้เรื่อยๆ ... ขอบคุณทุกท่านที่ถามถึงกันมาค่ะ
ช่วงนี้ใกล้ถึงช่วงซัมเมอร์ของยุโรปเข้าไปทุกที
เอิงเดินทางบ่อย ไปโน่น มานี่ หนีลมร้อนของเมืองมิลานไปต่างเมืองหน่อย
อาจเข้าไปทักทายเพื่อนๆ ช้านิดนึง ต้องขออภัยค่ะ
ปล. เอนทรี่นี้อยู่ใน สาขาไกลบ้าน/ชีวิตในต่างแดน ค่ะ
In the wake of perusing this blog, I might want to request more articles over and over. I am feeling myself as fulfill by became acquainted with these all such data which never went as far as anyone is concerned. Please author more. ของ ฝาก ยุโรป
ReplyDelete