Wednesday, February 8, 2012

เที่ยวชมเมือง Lucca เมืองแห่งกำแพง ประเทศอิตาลี


ภาษาอิตาเลี่ยนวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า Mura
อ่านว่า มู-รา (Stress คำว่า “มู”)
ภาษาไทยแปลว่า กำแพง
ภาษาอังกฤษตรงกับคำว่า Walls

Mura มูรา เป็น “คำพหูพจน์” นิยมใช้รูปแบบนี้
หมายถึง กำแพงที่กั้นรอบเมือง


 
Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley



สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องๆ ที่น่ารักทุกท่าน
วันนี้พามาเที่ยวกันต่อจากทริปคราวที่แล้ว (เมืองฟลอเรนซ์)
เราขับรถต่อไปยังเมือง Lucca อ่านว่า ลุค-คา
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองปิซ่า ในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี

เมืองนี้มีความน่าสนใจอยู่พอสมควร
คือ เป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ ภายในจำกัดถนน การขับรถ
ขับได้เฉพาะบริเวณรอบนอก ไม่ให้มีรถเข้าไปด้านในตัวเมือง
ทางส่วนใหญ่จึงเป็นทางเดินเท้า คนนิยมเดิน หรือปั่นจักรยาน
นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของเมือง Lucca เลยทีเดียว



มาชมภาพกันดีกว่า
เมือง Lucca ประเทศอิตาลี นำภาพจาก Google Map ให้ชมแผนที่กัน
เห็นเส้นกั้นขอบรอบเมือง นั่นคือกำแพงที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ทางเมืองได้บำรุงรักษา เก็บไว้มาจนถึงทุกวันนี้
(ส่วนรอบนอกกำแพง เป็นทุ่ง ลานกว้าง ใช้เป็นสวนเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ)

















โบสถ์ San Michele in Foro (ซาน มิเคเล)
โบสถ์ใหญ่ สถานที่สำคัญของเมือง ตั้งอยู่บน Piazza San Michele




















ข้างในโบสถ์ San Michele in Foro

















รูปปั้นพระแม่มารีย์ข้างโบสถ์ San Michele in Foro
เป็นรูปจำลองจากของจริงที่อยู่ในโบสถ์
ผลงานจากศิลปินชาวอิตาเลี่ยน Matteo Civitali

















รูปปั้นของนักแต่งโอเปร่าชื่อดังของอิตาลี  Giacomo Puccini
(มีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ.1858-1924)
บ้านเกิดของเขาคือเมือง Lucca นั่นเอง

















Piazza Napoleone (ลานนโปเลียน)
ชื่อนี้ถูกตั้งขึ้นในสมัยนโปเลียน ของฝรั่งเศส เรืองอำนาจ
เข้ามาครอบครองเมือง Lucca ในช่วงปี ค.ศ. 1800
ปัจจุบัน ที่นั่นเป็นลานพักผ่อนของคนในเมือง
มีร้านค้า ร้านอาหาร คอฟฟี่ช้อป ฯลฯ ตั้งอยู่รายล้อม



















รูปปั้นของ Elisa Caciocchi
และผู้สืบทอดตำแหน่ง Marie Louise de Bourbon
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำของเมือง Lucca ใน ปี ค.ศ.1805-1815


















โบสถ์ San Giovanni (ซาน โจวานนี)
โบสถ์ขนาดใหญ่ของเมือง Lucca
(รูปด้านหน้าและด้านหลังของโบสถ์)



















โบสถ์ San Martino (ซาน มาร์ติโน)
สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 11 อาคารโบสถ์มีหอระฆังตั้งอยู่ด้านข้าง
ลักษณะโดดเด่นคือลวดลาย façade ด้านหน้า เสาแกะสลัก
สะท้อนศิลปะ Pisan-Romanesque Style



















เมืองนี้มีแมวเยอะค่ะ น้องแมวมานั่งอาบแดดกันหลายตัว
ไปนอนอยู่บนหลังคารถยนต์ก็มี
(โดนถ่ายรูป หันมามองหน้าใหญ่ ...หน้าตาดุไม่ใช่เล่น 55+)

















Torre dei Giunigi (ทอร์เร เดย์ จูนิจี)
หอคอยในสไตล์ medieval
มีต้นโอ๊คปลูกอยู่ข้างบน ถือเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นทีเดียว

















ลานกว้าง ชื่อ Anfiteatro Romano
(Piazza del Mercato)
ลานกว้างเป็นรูปวงกลม มีบ้านสร้างเหมือนกำแพงอยู่รายรอบ
เป็นที่คาดกันว่า เมือง Lucca สร้างในสมัยอาณาจักรโรมันเรืองอำนาจ
(ประมาณ 180 ปี ก่อนคริสตศักราช)
ปัจจุบัน เป็นลานที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า ค้อฟฟี่ช้อป ฯลฯ
มีคนมานั่งจิบกาแฟ ทานขนม กลางแจ้งกันหลายคนทีเดียว



















ในประเทศอิตาลี มีโฆษณาทางโทรทัศน์ รถ Fiat รุ่น Panda
ตอนจบ ฉากที่รถวิ่งเข้าไปจอดคือ Anfiteatro Romano ในเมือง Lucca นั่นเอง

















โบสถ์ San Frediano
สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13
มีชื่อเสียงเรื่องลวดลาย Mosaic บนตัวอาคารของโบสถ์



















วิวจากกำแพงที่อยู่ล้อมรอบเมือง Lucca
มองเป็นตัวเมือง บ้านเรือน อาคารต่างๆ ที่อยู่ในเมือง



















วิวเมือง Lucca ด้านนอกกำแพง
เป็นทุ่งหญ้ารายล้อม และเป็นสวนสาธารณะ เดินออกกำลังกาย

















ภาพนี้ยืมมาจากคุณเพื่อนชาวอิตาเลี่ยน
ทิวทัศน์ ท้องทุ่งชนบทของทัสคานีในช่วงฤดูร้อน
หากมีโอกาสไปเที่ยวที่นั่นอีก จะไปเก็บวิวมาฝากกันแน่นอนค่ะ
(ต้องรอให้อากาศอุ่นกว่านี้สักหน่อย ตอนนี้หนาวจริงๆ)



















*Thank You*
ขอบคุณป้าอิ๋ว Sai Eeuu สำหรับของฝากค่ะ
ป้าอิ๋วส่งโปสการ์ดมาให้จากแม่ฮ่องสอน และผ้าปักรองแจกัน
สวยงามมาก ถูกใจจัง ขอบคุณป้าอิ๋วอีกครั้งค่ะ

















ขอบคุณคุณซู phusanapas เพื่อนบล็อกเกอร์จากออสเตรเลีย
คุณซูส่งโปสการ์ดมาให้จากเมือง Hahndorf
บอกด้วยว่าอาหารที่นั่นอร่อย อยากลองไปชิมจัง อิอิ

















ขอบคุณน้องแป้ง INDYINDARE.IC สำหรับของฝาก
เทียนหอมจากเมืองไทย และจดหมายลายมือน่ารัก
น้องสาวคนที่น่ารักคนนี้ รีวิวข้อมูลเกี่ยวกับความงามให้ชมกันบ่อยๆ
อยากชวนเพื่อนๆ คุณผู้หญิงที่สนใจ ลองแวะไปที่บล็อกน้องแป้งได้ค่ะ












ช่วงที่ไปเที่ยวเมือง Lucca ประเทศอิตาลี นั้นคือวันเสาร์ 28 มกราคม 2555
วันนั้นอากาศแจ่มใสพอสมควร อุณหภูมิประมาณ 8c
จากนั้นวันต่อมา อากาศก็เปลี่ยนแปลงไปทั้งประเทศอิตาลี
คือมีลมหนาวพัดผ่าน มีหิมะตกมากมายในหลายเมือง
ที่มิลานก็ใช่ย่อยค่ะ อุณหภูมิติดลบติดต่อกันหลายวัน -5c ในช่วงสุดสัปดาห์
นับว่าเป็นปรากฏการณ์ ฤดูหนาวมาช้า และหนาวยะเยือกจนเป็นน้ำแข็ง
คาดว่าประเทศอิตาลีต้องรับมือกับความหนาวไปอีกหลายวันค่ะ

เพื่อนๆ ที่ถามถึงกันมาเรื่องแผ่นดินไหวในภาคเหนือของอิตาลี
(เกิดขึ้นในวันที่ 25 และ 27 มกราคม 2555) ความแรง 4.9-5.5 ริกเตอร์
ไม่มีความเสียหายมากมาก แต่ทุกคนรู้สึกได้ตอนเกิดเหตุ
ตอนนี้ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมากที่ถามถึงกันมาค่ะ

ปล. เอนทรี่นี้อยู่ใน สาขาไกลบ้าน/ชีวิตในต่างแดน ค่ะ


No comments:

Post a Comment