Monday, September 30, 2013

เที่ยวเมืองเวนิส Venice/Venezia ประเทศอิตาลี



ภาษาอิตาเลี่ยนวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า Canale
อ่านว่า คา-นา-เล (Stress คำว่า “นา”)
ภาษาไทยแปลว่า คลอง
ภาษาอังกฤษ คือ Canal


Smiley สวัสดีพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่รักทุกท่านค่ะ Smiley
ช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีโอกาสพาคุณเพื่อนสาวๆ ไปเที่ยวเวนิสด้วยกัน
จริงๆ แล้วถ้าใครอยากไปเวนิสนี่แนะนำให้ไปช่วงที่ไม่ใช่หน้าร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
เพราะคนมากันเยอะมาก
แต่เนื่องจากเพื่อนๆ มาพักที่บ้านในช่วงนั้น เวลาจำกัด ก็เลยนัดไปกันค่ะ
อากาศร้อนนิดๆ แต่ถือว่าแดดแจ่ม ถ่ายรูปสนุก
เบียดคนเยอะหน่อย ทำใจนะคะ เมืองท่องเที่ยวสำคัญในอิตาลีนักท่องเที่ยวเพียบ
วันนั้นอุณหภูมิประมาณ 30-31c น่าจะได้

ไปคราวนี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 ของเอิง
เน้นเดินเที่ยว เก็บภาพ ดูวิวริมคลอง ชมเรือกอนโดล่า
หากใครมีเวลาเยอะหน่อย แนะนำให้เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ และภายในโบสถ์ซานมาร์โค
ซึ่งไปกันคราวนี้พวกเราไม่เน้นเข้าพิพิธภัณฑ์เพราะคิวยาว
อีกอย่างหนึ่งคือ เราเคยเข้าพิพิธภัณฑ์ในเวนิสหลายแห่งก่อนหน้านี้แล้วในปีก่อนๆ
ใครสนใจอยากรู้ข้อมูลส่งหลังไมค์มาได้ค่ะ

Smiley การเดินทาง Smiley
เมืองเวนิสมีสถานีรถไฟหลัก คือ Venezia Santa Lucia
เป็นสถานีที่ผู้โดยสารสามารถมาลง และเดินเที่ยวในเมืองเวนิสได้เลย
เมืองนี้รถเข้าไม่ได้นะคะ เป็นเมืองปลอดรถยนต์
หากใครขับรถมาต้องไปจอดรถนอกเมือง แล้วนั่งเรือโดยสารเข้ามา
ส่วนการเดินทางภายในตัวเมืองสามารถเลือกได้
คือเดินเท้า นั่งเรือโดยสาร Vaporetto นั่งเรือแท๊กซี่ หรือนั่งเรือกอนโดล่า
ไปตามจุดต่างๆ ในตัวเมือง


บล็อกนี้เน้นบรรยากาศคึกคัก มุมต่างๆ ในเวนิส
มาชมภาพกันเลยค่ะ

หน้ากากสีสันสดใส มีขายตามที่ๆ ต่างใน Venice









โบสถ์ Scalzi หรือมีอีกชื่อหนึ่ง คือ โบสถ์ Santa Maria di Nazareth








ร้านขายของที่ระลึกและหน้ากากอีกแห่งหนึ่ง เน้นสีสดใส








พวกเราเดินลัดเลาะกันไปริมคลอง
มีป้ายบอกทางตลอด พวกเราจะไปที่ลานหน้าโบสถ์ San Marco
เดินตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ วิวตามทางคือคลอง เรือล่องไปมา







โบสถ์ซานร็อคโค San Rocco










โบสถ์เล็กแห่งหนึ่ง อยู่ใกล้ทางเดินไปโบสถ์ซานร็อคโค








นักท่องเที่ยวมานั่งเล่นริมคลองตามลานเล็กๆ ในเมืองเวนิส








สะพาน Rialto ถือเป็นสะพานยอดนิยมที่หลายคนชอบมาถ่ายรูป








เรือกอนโดล่า นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมใช้บริการนั่งเรือชมเมือง









ทิวทัศน์ของเมืองเวนิส (ถ่ายจากสะพานริอัลโต้)
เห็นบ้านเรือนสีสันสดใส เรือโดยสาร เรือกอนโดล่า วิ่งอยู่ทั่วไป










สะพาน Rialto อีกมุมหนึ่ง







เรือกอนโดล่า Gondola ใช้กันมาตั้งแต่อดีต
และยังเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน









เรือโดยสารแบบธรรมดาก็มีนะคะ แล้วแต่ใครอยากนั่งแบบไหนมีให้เลือก








อีกสักภาพกับเรือ Gondola ที่นั่งข้างในหรูหราไม่ใช่เล่น








โบถส์สำคัญของเมืองเวนิสคือ San Marco ซานมาร์โค
(ภาษาอังกฤษ คือ St.Mark)
ชื่อเต็ม Basilica di San Marco
สร้างในช่วงศตวรรษที่ 11 ใช้สถาปัตยกรรมผสมผสาน
Eastern + Byzantium + Venetian Style







ลานกว้างซานมาร์โค เห็นหอระฆัง Campanile ตั้งเด่นเป็นสง่า








ร้านอาหารบริเวณ San Marco Square บางร้านมีนักดนตรีมาขับกล่อม







อีกมุมหนึ่งของ Basilica di San Marco







หอนาฬิกา Clock Tower (Torre dell’Orologio)
สร้างประมาณ ปี ค.ศ.1496 เป็นนาฬิกาโบราณ
ตั้งอยู่บริเวณลานกว้างข้างโบสถ์ San Marco







วังโบราณ Doge’s Palace (Palazzo Ducale)
คนอิตาเลี่ยนนิยมเรียกว่า ปาลาซโซ ดูคาเล
สมัยก่อนใช้เป็นที่พัก และที่ทำการของผู้ปกครองเมือง
สมัยเวนิสยังเป็นรัฐอิสระ Venice Republic
ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมได้










ลานกว้างทางเดินเท้า ระหว่าง Palazzo Ducale และหอระฆัง Campanile









เรือกอนโดล่า จอดอยู่ตรงบริเวณเรือ San Zaccaria










สะพาน Bridge of Sighs (Ponte dei Sospiri)
สะพานเชื่อมระหว่างวัง Palazzo Ducale ไปยังอีกฟากหนึ่งของคลอง
ในอดีตนั้น อีกฝากเคยเป็นเรือนจำขังนักโทษ
เมื่อนักโทษโดนตัดสิน จะถูกนำเดินข้ามสะพานนี้ไปยังคุก
การเดินข้ามสะพานถือเป็นการให้เห็นวิวของเวนิสเป็นครั้งสุดท้ายก่อนถูกจองจำ
Sigh แปลว่า ถอนหายใจ
เพราะว่ากันว่า นักโทษแต่ละคนถอนหายใจระหว่างเดินข้ามสะพานไปยังอีกฝากค่ะ


สะพาน Ponte dei Sospiri
ถือเป็นมุมถ่ายภาพอีกแห่งที่หลายคนนิยมมาชมกัน








บรรยากาศคึกคักช่วง Summer หน้าลานกว้าง San Marco Square
เห็นโบสถ์ Basilica di San Marco เป็นฉากอยู่ด้านหลัง







ใกล้ๆ เมืองเวนิสยังมีเกาะเล็กๆ ที่น่าเที่ยวอีกนะคะ
เช่น เกาะ Murano, Burano, Torcello, Lido ฯลฯ
ถ้ามีโอกาสวันหลังจะภาพมาฝากกันอีก
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ที่พี่ๆ น้องๆ หลายท่านฝากไว้
มีเวลาแล้วจะแวะไปทักทายแต่ละท่านแน่นอนค่ะ


ปล. เอนทรี่นี้อยู่ใน สาขาไกลบ้าน/ชีวิตในต่างแดน ค่ะ



No comments:

Post a Comment