Monday, September 12, 2011

แวะทานอาหารเที่ยง ร้านกาแฟนรสิงห์ ณ วังพญาไท

ชื่อร้าน : ร้านกาแฟนรสิงห์ ณ วังพญาไท
รายการอาหาร : ข้าวหน้าไก่, สปาเก็ตตี้, เค็ก, ชา, กาแฟ
เวลาเปิดบริการ : จันทร์-ศุกร์ 8.30-19.00, เสาร์-อาทิตย์ (และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 10.30-19.00
ที่ตั้งร้าน : พระราชวังพญาไท (บริเวณ รพ.พระมงกุฏ) ถ.ราชวิถี, กรุงเทพมหานคร พญาไท Thailand
พิกัด GPS : 13° 46' 2.78" N 100° 32' 5.80" E





ร้านกาแฟนรสิงห์
พระราชวังพญาไท (ภายใน รพ. พระมงกุฏเกล้า)
ถ.ราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร




ภาษาอิตาเลี่ยนวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า Pranzo
อ่านว่า ปรัน-โซ (Stress คำว่า “ปรัน”)
ภาษาไทยแปลว่า อาหารเที่ยง
ภาษาอังกฤษตรงกับคำว่า Lunch




สวัสดีพี่ๆ น้องๆ และท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน
วันนี้ขอพามาที่ร้านกาแฟ น่าสนใจแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครค่ะ
ร้านนี้มีประวัติค่อนข้างยาวนาน ชื่อร้านกาแฟนรสิงห์
Café de Norasingha @ Phyathai Palace

เอิงได้เห็นภาพและอ่านข้อมูลครั้งแรกที่ bloggang นี่เอง
มีพี่ๆ น้องๆ บล็อกเกอร์หลายท่านไปเยี่ยมชม (และชิม)
เห็นภาพครั้งแรกประทับใจในเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ช่วงอยู่เมืองไทยตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปเยี่ยมร้านกาแฟแห่งนี้ให้ได้ค่ะ


ประวัติโดยย่อของ ร้านกาแฟนรสิงห์ ณ วังพญาไท
(ข้อมูลจาก google.com)
แรกเริ่มนั้นตั้งอยู่ที่มุมสนามเสือป่า
สร้างขึ้นในสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
นับเป็นร้านกาแฟ Café แห่งแรกของประเทศไทย
ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่บริเวณพระราชวังพญาไท
โดยใช้สถานที่ที่เคยเป็นอาคารเทียบรถพระที่นั่ง
(ในอดีตนั้นเป็นบริเวณที่ให้สามัญชนเข้ารอ ก่อนที่จะรับเสด็จฯ)

ตัวอาคารของร้านตั้งอยู่หน้า “พระที่นั่งพิมานจักรี”
ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6)

ร้านกาแฟนรสิงห์เคยปิดกิจการไปในสมัย ร.7
แต่ไม่นานมานี้ได้มีการคัดเลือกผู้เข้ามาประกอบการเพื่อมาทำร้านกาแฟ
จึงได้เปิดทำการขึ้นอีกครั้งโดยหุ้นส่วนเอกชน
ปัจจุบัน “นรสิงห์” เป็นทั้งร้านกาแฟ และร้านอาหาร
เปิดให้บริการสำหรับบุคคลทั่วไป


ดูจากการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในนั้น
สามารถบ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมยุโรปสมัยเก่า
ตัวตึก อาคาร คล้ายๆ กับอาคารของยุโรปตะวันตกในบางเมือง
มีกลิ่นอายของอิตาเลี่ยนนิดๆ
(แต่อิตาเลี่ยนส่วนใหญ่จะเน้นสีน้ำตาล สีเทา สีขุ่นๆ)
เป็นสถานที่ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของสยามประเทศไว้
น่าสนใจ และน่าไปเยี่ยมชมค่ะ




มาชมภาพกันดีกว่า
ด้านหน้า ประตูทางเข้าของ รพ. พระมงกุฏ
เห็น “ร้านกาแฟนรสิงห์” ตึกเล็กข้างหน้า พระที่นั่งพิมานจักรีข้างหลัง

















ร้านกาแฟนรสิงห์ (อีกมุมหนึ่ง)

















พระที่นั่งพิมานจักรี
(มีหลังคาด้านหน้าเชื่อมกับ “ร้านกาแฟนรสิงห์”)

















ทางเข้า “ร้านกาแฟนรสิงห์”

















ประตูทางเข้าร้านกาแฟ
ด้านบนของประตู มีพระนามาภิไทย “๖ รร” หรือ รามราชาธิบดี ๖
คือพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖

















ป้ายทางเข้าด้านหน้า ร้านกาแฟนรสิงห์ ณ วังพญาไท
Café de Norasingha @ Phyathai Palace



















“นรสิงห์ ยินดีต้อนรับ” ป้ายนี้ตั้งอยู่ในร้านเมื่อเดินเข้ามา

















การตกแต่งภายในของร้าน
ได้บรรยากาศกลิ่นอายตะวันตก และสยามประเทศในอดีต



















มาถึงเมนูอาหารกันบ้าง
(กว่าจะมาถึงรีวิวอาหารได้ แอบนอกเรื่องซะยาว อิอิ
อดไม่ได้ที่จะพูดถึงสถานที่ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์จริงๆ)



“ข้าวและไก่ฮาวายเอี้ยน” จานนี้ของสามีค่ะ
รสชาดเปรี้ยวๆ หวานๆ เค็มๆ มันๆ คุณสามีชอบ บอกว่าอร่อย
เอิงชิมไปหนึ่งคำ ค่อนข้างใช้ได้ ออกหวานนิดนึงแต่ก็โอเคค่ะ

















สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า







สำหรับสปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า
อันนี้มีสองความเห็นค่ะ เพราะเอิงทาน และให้สามีชิมด้วย
ความคิดเห็นของเอิง รสชาดกำลังดี ครีมเยอะไปนิด แต่ไม่เป็นไร
เค็มๆ มันๆ อยู่ในมาตรฐานอาหารนานาชาติ


คุณสามี (สัญชาติอิตาเลี่ยนแท้) บอกว่า
ชีสน้อยไป และไม่ใช่ชีสต้นตำหรับ Pecorino Romano (งานเข้าล่ะสิ)
เรื่องของเรื่องคือ สามีชอบสปาเก็ตตี้ คาโบนาร่ามากค่ะ
คุณแม่ของเธอทำให้ทานบ่อยตั้งแต่เด็กๆ
ไอ้เจ้าชีส Pecorino Romano เนี่ย ไม่เคยเห็นทีไหน นอกจากที่อิตาลี
(ชีสนี้ทำจากนมแกะ กลิ่นจะตุๆ เป็นพิเศษ ได้กลิ่นแล้วรู้ทันที)

ขอชี้แจงนิดนึงนะคะว่า เวลาคนอิตาเลี่ยนทานอาหารอิตาเลี่ยนนอกประเทศอิตาลี
เค้าจะระวังและพิจารณาเป็นพิเศษ เกิดเป็น Judgmental mind
(การคิดในแบบตัดสิน วิพากษ์วิจารณ์)
สิ่งนี้คนไทยหลายคนก็เป็นค่ะ หากได้ทานอาหารไทยต่างบ้านต่างแดน
เช่น ที่เมืองไทยไม่มีทำแบบนี้ ที่เมืองไทยต้องปรุงผักแบบนั้น ปรุงเนื้อแบบนี้ ฯลฯ


เพราะฉะนั้น รีวิวเมนูนี้จึงออกเป็นสองความเห็น
คนไทยกิน กะคนอิตาเลี่ยนกิน ออกความเห็นไม่เหมือนกัน










มาดูกันทั้งโต๊ะ มีอะไรหม่ำบ้าง
เครื่องดื่มของเอิงคือ “ชาไทยปั่น” อร่อย หอมหวาน

















เสร็จจากอาหารคาว มาต่อที่อาหารหวาน
เค็กช็อคโกแลต สลับชั้นกับครีม
ถูกใจมาก ถึงรสชาดช็อคโกแลต

















ปิดท้ายด้วยกาแฟ espresso รสเข้มข้น
(เหมือนได้ทานในอิตาลีจริงๆ)










รีวิวร้านอาหารวันนี้ เน้นพาชมสถานที่เยอะหน่อยค่ะ
เพราะมีเอกลักษณ์โดดเด่นจริงๆ ร้านกาแฟแห่งแรกของประเทศไทย
บรรยากาศกรุงเก่า วังโบราณ น่าชื่นชมและประทับใจ
หากใครมีโอกาส ลองแวะไปชมและชิมนะคะ











ปล. พี่ๆ น้องๆ สามารถรับข่าวสารอัพเดททาง Facebook
โดยเข้าไปที่เพจของ Diamondsky Blog ค่ะ

Diamondsky Blog

FB Page




ขอบคุณที่แวะมาทักทาย แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ

2 comments:

  1. ร้านสวยจังเลยค่ะ
    ไว้ต้องแวะไปบ้างแล้ว

    ReplyDelete
  2. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete