Monday, July 2, 2012

Cinque Terre, Italy ตอนที่ 3 - เที่ยวเมือง Corniglia, Manarola

ภาษาอิตาเลี่ยน วันนี้ขอเสนอคำว่า Scala
อ่านว่า สกา-ลา (Stress คำว่า “สกา”)
ภาษาไทยแปลว่า บันได, ขั้นบันได
ภาษาอังกฤษ คือ Stair
Scala อ่านว่า สกา-ลา (Stress คำว่า “สกา”) คำเอกพจน์ บันไดหนึ่งขั้น
Scale อ่านว่า สกา-เล (Stress คำว่า “สกา”) บันไดหลายขั้น

*** ในที่นี่นิยมใช้คำพหูพจน์มากกว่า คือ Scale เพราะส่วนใหญ่ขั้นบันไดมีหลายขั้น

ทบทวนคำศัพท์คราวที่แล้วนิดนึง
Cinque = 5, Terre = แผ่นดิน
Cinque Terre (ชิงเคว เทเร) แปลว่า 5 แผ่นดิน, แผ่นดินทั้งห้า
ภาษาอังกฤษ Five Lands


สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องๆ ที่น่ารักทุกท่าน
วันนี้ขอพามาเที่ยวกันกันตอนที่สามของ Cinque Terre
คือเมืองคอร์นีเลีย Corniglia และเมืองมานาโรลา Manarola

ตอนที่ 1 เมือง Monterosso al Mare อยู่ในลิงค์นี้
Cinque Terre ตอนที่ 1 : เมือง Monterosso al Mare

ตอนที่ 2 เมือง Vernazza อยู่ในลิงค์นี้
Cinque Terre ตอนที่ 2 : เมือง Vernazza






เมือง Corniglia อ่านว่า คอร์นีเลีย
เมืองที่สามในห้าของ Cinque Terre
เป็นเมืองเดียวที่ไม่ได้มีทางเดินติดกับทะเล ชายหาดโดยตรง
เพราะที่ตั้งนั้นอยู่บนเขา จะเห็นวิวของทะเลอยู่ด้านล่าง
เมืองนี้เราเดินทางมาถึงโดยรถไฟจากเมือง Vernazza
เพราะทางเดินป่า Blue Trail (Sentiero Blu) ปิดปรับปรุง
เนื่องจากได้รับผลกระทบอุทกภัยและโคลนถล่มในเดือน ต.ค. 2554
เมื่อมาถึงสถานีนั้นจะเห็นทางเดินเรียบชายฝั่งทะเลไปยัง Corniglia
ต้องขึ้นขั้นบันไดไป 382 ขั้น ออกกำลังไม่น้อยเลย
สำหรับคนที่ไม่อยากเดินก็มี Shuttle Bus คอยรับส่ง
(ค่าโดยสาร one-way 1.50 ยูโร, two-way 2.50 ยูโร)
มีตารางรับส่งที่แน่นอน แนะนำให้เช็คเวลาก่อนที่ป้ายจอดรถค่ะ

เมืองนี้มีชื่อเรื่องการทำไร่องุ่น ผลิตไวน์
ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำไร่ตามเชิงเขา
ถนนสายหลักในเมือง คือ Via Fieschi (ฟิเอสคิ)
มีร้านค้าต่างๆ ร้านอาหาร ร้านขายเจลาโต้ ของที่ระลึก ฯลฯ
เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะถึงจุดชมวิว ชื่อ Santa Maria Belvedere


มาชมภาพกันค่ะ
สถานีรถไฟเมือง Corniglia มีแค่สองราง ขาไปและกลับ
เลียบไปตามชายฝั่งทะเล Ligurian Sea

















ภาพทางเดินจากสถานีรถไฟไปยังตัวเมือง
จะเห็นทางขึ้นบันได้สามร้อยกว่าขั้นอยู่ด้านหน้า

















ขึ้นบันไดมาแล้วใกล้ถึงตัวเมือง
มองลงไปจะเห็นทิวทัศน์ทะเลสีเข้ม สถานีรถไฟ ภูเขาติดริมฝั่งทะเล


















ป้ายต้อนรับ เมื่อมาถึงเมืองคอร์นีเลีย
แสดงความยินดี ท่านได้เดินขึ้นบันได 382 ขั้น (แห่กๆๆๆๆ)
ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกหน่อยค่ะ 555+

















ป้ายแผนผังของเมือง เมืองเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก


















ถนนเล็กๆ ภายในตัวเมือง
มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ ตั้งอยู่เรียงราย




















เห็นนักท่องเที่ยวมาจดๆ จ้องๆ อยู่หน้าร้านขายเจลาโต้
ร้านนี้หลายคนแนะนำให้ไปลองทาน ชื่อ Alberto’s Gelateria
เราหยุดพัก เติมพลังที่นั่นกันก่อน ทานเจลาโต้ถ้วยเล็กๆ
(ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ ลืมๆๆๆ... ทานเสร็จแล้วลืมถ่ายรูป 55+)


















จุดชมวิวของเมือง Santa Maria Belvedere เป็นระเบียงขนาดใหญ่
ภาพนี้ถ่ายตอนก่อนเดินเข้าไปบนระเบียง

















จากจุดชมวิว เห็นเมืองมานาโรลา Manarola มาแต่ไกล



















มองลงไปด้านล่าง เห็นน้ำทะเลใสๆ สีฟ้าเข้ม

















ในตัวเมือง มีร้านขายต้นเบเซิ่ล basil (โหระพาฝรั่ง) เยอะมาก
ขายเป็นกระถาง กระถางละประมาณ 2 ยูโร ถือว่าโอเค ไม่ถูกไม่แพงค่ะ



















นั่นอะไร?... “ครก” ใช่มั้ยนั่น... ใช่เลยค่ะท่านผู้ชม 555+
อิตาลีก็มีครก แต่ไม่ได้เอาไว้ตำส้มตำ (หรือใครจะตำก็ได้ ไม่ว่ากัน)
เอาไว้ทำเพสโต้ค่ะ ส่วนประกอบหลักๆ ของเพสโต้ คือ
Basil, Pine nuts, กระเทียม, เกล็ดชีสพาเมซาน, น้ำมันมะกอก
ตำในครกแบบนี้ อิตาเลี่ยนแท้ ลืม food processor ไปได้เลย 555+














*Note* เมืองทั้งหลายในเขต Liguria รวมทั้ง Cinque Terre
ขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์ซอสเพสโต้ที่ส่งขายไปทั่วอิตาลี
ส่วนประกอบหลัก คือ ใบ basil ปลูกในเขตนี้ถือว่ามีคุณภาพสูงทีเดียว
อาจเพราะลมฟ้าอากาศเป็นใจ ใบ basil ที่นั่นถึงอร่อยถูกใจคนอิตาเลี่ยนก็เป็นได้




“น้ำผึ้ง” (ภาษาอิตาเลี่ยน Miele มิเยเล)
เป็นผลิตภัณฑ์อีกอย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อใน Cinque Terre
















ซอสเพสโต้ ...สินค้าพื้นเมืองขึ้นชื่อ มีขายทั่วไปใน Cinque Terre


















ขากลับ เดินลงบันไดไปสถานีรถไฟ
ขาขึ้นเดินเหนื่อยค่ะ แต่ตอนลงเดินสบายๆ เดินลงง่ายกว่าเยอะ ^.^
















มีต้นไม้ตระกูลแคคตัสระหว่าง ออกดอกเยอะ ขอถ่ายรูปหน่อย ^.^
















เมืองมานาโรลา Manarola อีกเมืองหนึ่งใน Cinque Terre
เมืองนี้ไม่มีชายหาด แต่มีโขดหินริมทะเลมากมายที่นักท่องเที่ยวชอบไปนั่งเล่น
หรือว่ายน้ำในบริเวณนั้น
ในตัวเมืองมีลานชื่อ Piazza Capellini สำหรับนั่งเล่น เดินเล่น
มีร้านค้ามากมายตั้งอยู่ในบริเวณนั้น
ในเมืองมีโบสถ์สำคัญชื่อ San Larenzo
และมีจุดชมวิวชื่อ Punta Bonfiglio (พุนตา บอนฟิลิโอ)
ที่สามารถมองเห็นทะเล ภูเขา โขดหิน ฯลฯ ที่สวยงาม
(ภาพจาก Manarola มีไม่เยอะนะคะ เนื่องจากแบ็ตตารี่เริ่มใกล้หมด
ต้องหาที่ชาร์จเพิ่ม ได้ชาร์จเมื่อเข้าเมืองต่อไป)


ภาพเมืองมานาโรลา Manarola เมืองตั้งอยู่บนโขดหิน ติดทะเล
เมืองนี้แทบไม่ได้รับผลกระทบจากโคลนถล่ม
ปลายปีที่แล้วมีฝนตกเยอะ แต่ระบายออกลงทะเลหมด












ตอนแรกกะจะเพิ่มภาพจากเมือง Riomaggiore เมืองสุดท้ายเข้าไปด้วย
แต่ภาพชักเริ่มเยอะ ไว้มาลงบล็อกหน้าดีกว่า
จะพาไปเดินถนนแห่งคู่รัก Via dell’Amore ที่เชื่อมระหว่าง
เมือง Manarola – Riomaggiore ไว้ติดตามตอนต่อไปนะคะ

ท้ายสุดขอแสดงความยินดีกับทีมสเปน ที่ชนะเป็นแชมป์ฟุตบอลยูโร 2012
ถล่มทีมอิตาลีราบคาบจริงๆ ต้องยกย่องชมเชยให้เค้าค่ะ
เมื่อคืนแฟนๆ อัซซูรี่เงียบเหงา... ตามฟอร์ม ...
ยังไงขอส่งกำลังใจให้ ไว้รอลุ้นฟุตบอลโลกอีกสองปีข้างหน้านะคะ


ปล. เอนทรี่นี้อยู่ใน สาขาไกลบ้าน/ชีวิตในต่างแดน ค่ะ

1 comment:

  1. ขอบคุณมากค่ะ กำลังหาข้อมูลเมืองนี้อยู่พอดีเลย

    ReplyDelete